“อาคม” เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยปี64โตเกิน 1%



  • ส่งออกขยายตัวดี นโยบายกระตุ้นใช้จ่ายได้ผล“คนละครึ่ง-ยิ่งใช้ยิ่งได้”
  • บรรยากาศเศรษฐกิจคึกคัก รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.
  • ย้ำยังไม่จำเป็นใช้มาตรการภาษีน้ำมันช่วยพยุงราคา

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง ยังมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทย ปี2564 จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 1 % หรือใกล้เคียงกับการคาดการณ์ไว้ที่ 1.3% หลังจากช่วง 6 เดือนของปีนี้ เศรษฐกิจขยายตัว 2%  ทั้งนี้เป็นผลมาจากยอดการส่งออกของไทยที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล มีความต่อเนื่อง ทั้งมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน ผ่านโครงการคนละครึ่ง และย่ิงใช้ย่ิงได้ รวมถึงมารตการเยียวยาอื่นๆ การเร่งรัดการลงทุนของรัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งจะเกิดกิจกรรมท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและต่างชาติ ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก  ส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของไทยหลายแสนล้านบาท ส่วนปี2565 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวราว 6-8 ล้านคน 

“วันนี้(28ต.ค.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะมีการแถลงข่าวตัวเลขอย่างเป็นทางการของอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไตรมาส 3 และการปรับประมาณการเศรษฐกิจปี2564ใหม่  ดังนั้นต้องรอตัวเลขอย่าง สศค.เพื่อความแม่นยำ อีกครั้ง“

สำหรับโครงการคนละครึ่ง ที่ได้ปิดโครงการไปแล้ว เนื่องจากผู้รับสิทธิเต็มจำนวน 28 ล้านสิทธิ์แล้วนั้น กระทรวงการคลัง จะไม่ขยายสิทธิคนละครึ่งเพิ่มเติมอีก  จากเดิมกระทรวงการคลังได้เปิดสิทธิคนละครึ่งไว้ที่ 30 ล้านสิทธิ์ แต่หลังจากทบทวนข้อมูลทั้งหมดแล้วพบว่ามีประชาชนใช้สิทธิคนะลครึ่งเพียง 28 ล้านสิทธิ์เท่านั้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องขยายสิทธิ์คนละครึ่งอีก  ส่วนโครงการช้อปดีมีคืนนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจช่วยปลายปีนี้หรือไม่ 

นายอาคม กล่าวย้ำว่า เรื่องราคาน้ำมันแพงนั้น เป็นไปตามวัฎจักรในช่วงหน้าหนาวของทุกปีราคาน้ำมันจะปรับสูงขึ้น และเมื่อพ้นหน้าหนาวราคาน้ำมันจะปรับลดลง  ซึ่งขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังสามารถบริหารจัดการได้ โดยกำหนดให้ราคาน้ำมันดีเซล ไม่เกินราคา 30 บาทต่อลิตร  ดังนั้นจึงยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการทางภาษีสรรพสามิต มาช่วยพยุงราคาแต่อย่างใด