“อาคม” ย้ำต้องเอาผิดทั้งตัวบุคคลและหน่วยงานตรวจสอบบัญชี “สตาร์ค” ด้วย



  • จี้ บอร์ดก.ล.ต.-ตลท.เคลียร์ปม “สตาร์ค”​ 
  • เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดทุน
  • คุ้มครองผู้ลงทุนรายย่อย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง  เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการ (บอร์ด) กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)​ และคณะกรรมการ (บอร์ด) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ(ตลท.) ยังไม่ได้รายงานความคืบหน้ากรณีปัญหาบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ (สตาร์ค)​ STARK ซึ่งตนได้เร่งรัดไปยังบอร์ดของทั้ง 2 องค์กร ให้เร่งสร้างความชัดเจนโดยเร็ว  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนไทย และคุ้มครองผู้ลงทุนรายย่อยด้วย อีกทั้งยังได้กำชับให้ก.ล.ต.และตลท. ไปหารือถึงแนวทางการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดกรณีซ้ำรอยสตาร์คอีก   

“ในส่วนกรณีสตาร์ค ปัญหาได้เกิดขึ้นไปแล้ว ต้องดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ซึ่งฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการดำเนินการ  ซึ่งจากที่11 องค์กร ได้แถลงข่าวร่วมกันไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้รายงานความคืบหน้าให้ผมได้รับทราบแต่อย่างใด และจากกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีอีกหลายบริษัทที่เข้าข่ายและพฤติกรรมเช่นเดียวกันกับสตาร์คนั้น ได้กำชับให้ทั้ง 2 หน่วยงานดังกล่าว เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เกิดปัญหาซ้ำรอยสตาร์คอีก”

 ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับสตาร์คนั้น ถือว่าระบบการกำกับดูแลของตลท.และก.ล.ต. มีช่องโหว่หรือไม่นั้น นายอาคม กล่าวว่า กรณีนี้หลายฝ่ายมีความกังขา แต่เพราะการตรวจสอบบัญชีนั้น มีหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง เมื่อตรวจสอบความผิดปกติทางบัญชีไม่เจอ จนเกิดปัญหาดังกล่าวนั้น ดังนั้นต้องให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพการตรวสอบบัญชีด้วย หากจะมีการแก้ไขกระบวนการตรวจสอบบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงการตรวจสอบบัญชี ที่มีช่องโหว่ ก็ต้องแก้ไขเพื่อให้รัดกุมมากที่สุด และเมื่อหน่วยงานตรวจสอบทางบัญชี ได้กระทำความผิด ต้องเอาผิดทั้งหน่วยงานและตัวบุคคลด้วย เพราะฉะนั้นกรณีสตาร์ค ต้องเอาผิดทั้งตัวบุคคลและหน่วยงานตรวจสอบบัญชีด้วย