
- เชื่อคำปรึกษาของนายทักษิณ คงไม่ได้ประโยชน์ เพราะไม่ได้สัมผัสความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง
- แนะหากอยากช่วยประเทศ ให้หยุดพูดสร้างความสับสน หยุดพูดสร้างความแตกแยก
- เผยหากอยากกลับประเทศ แค่มารับโทษที่ติดตัวอยู่ เชื่อประขาชนจะยอมให้อภัย
วันนี้ (14 ก.ค.64) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู้ดซัม ร่วมเสวนาผ่านคลับเฮาส์ พร้อมให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โทรหาเพื่อขอคำปรึกษา พร้อมระบุว่า หากอยากไล่นายกฯ ให้ไปฟ้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมถึงคนเป็นนักการเมืองจะแคร์ประชาชน แต่คนที่มาจากการปฏิวัติไม่แคร์ประชาชน
โดยนายเสกสกล ระบุว่า คำพูดเหน็บแนมของนายทักษิณ ที่อยากจะเสนอแนะและให้คำปรึกษาไม่ได้ออกมาจากใจแต่เป็นเพียงเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองมากกว่า ตนมองว่าคำปรึกษาของนายทักษิณ คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะไม่ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ ไม่ได้ลงมาสัมผัสกับความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง ขณะเดียวกันในสถานะของคนทำผิดที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเช่นนายทักษิณ คงไม่สมควรที่จะโทรไปปรึกษา เพราะปรึกษากับนักโทษที่มีคดีทุจริตติดตัวคงไม่ได้ประโยชน์อะไร
นายเสกสกล ยังกล่าวย้ำด้วยว่า ที่ผ่านมาทางนายกฯ และรัฐบาล สามารถแก้ไขปัญหาเองได้ และตนเองก็เห็นแล้วว่าทำได้ดี ทั้งต้องแก้ไขปัญหาที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทิ้งเอาไว้ เช่น โครงการรับจำนำข้าวและปัญหาอื่นๆอีกมากมายที่สะสมมานาน ได้พัฒนาประเทศต่างๆมากมาย รวมถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้ทุกภาคส่วน บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนได้ร่วมมือกันอย่างดี เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องขอคำแนะนำจากนายทักษิณ
“ถ้านายทักษิณจะช่วยประเทศชาติได้ในภาวะนี้คือ หยุดพูดสร้างความสับสนและด้อยค่าคนอื่น หยุดพูดเหน็บแนมคนอื่น หยุดพูดสร้างความแตกแยกให้กับคนไทยได้แล้ว นี่คือสิ่งที่จะช่วยได้มากที่สุดในยามนี้” นายเสกสกล กล่าว
นอกจากนี้ที่นายทักษิณ บอกว่า นักการเมืองทั้งเก่งและไม่เก่งจะแคร์ประชาชน แต่คนที่มาจากการปฏิวัติไม่แคร์ประชาชนนั้น ตนคิดว่านายทักษิณอย่าเข้าข้างตัวเองดีกว่า เพราะบางทีคนที่อ้างว่ามาจากประชาชน แต่เอาประชาชนมาเป็นข้ออ้าง เพื่อที่จะแสวงหาผลประโยชน์ทุจริตโกงกินมากมาย จนต้องติดคุกติดตารางหรือหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ตัวเองใช้เสียงข้างมากลากไปจนถูกเรียกเป็นเผด็จการรัฐสภา หรือระบอบทักษิณการกระทำเช่นนี้ของนักการเมืองใช่ไหม ที่เรียกว่าแคร์ประชาชน หรือเห็นเงาหัวประชาชน ตนเห็นว่าคนที่เป็นนักการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยนั้นไม่เห็นแคร์ประชาชนอะไรเลย เพราะวันๆ มีแต่ปากออกมาพูด เพื่อสร้างความสับสนให้กับประชาชนไม่หยุดเช่นเดียวกับนายทักษิณ ไม่คิดช่วยประชาชนในยามวิกฤตโควิด คิดแต่จะล้มรัฐบาลกลับมามีอำนาจไว้ในมืออีก ในขณะที่บ้านเมืองต้องการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ซึ่งตนเองก็อยากให้นายทักษิณออกมาเตือนคนในพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พฤติกรรมเช่นนี้ไม่สมควรทำอย่างยิ่งในขณะนี้
“ผมยืนยันว่า นายกฯ จะต้องทำงานแก้ไขปัญหาจนครบเทอม จะไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใครทั้งนั้น ดังนั้นคงไม่ต้องไปบอก พล.อ.ประวิตร ให้ไปบอกนายกฯ ให้ลาออก การที่นายทักษิณออกมาพูดไม่หยุดนั้นแสดงให้เห็นว่าไม่ได้อยากจะช่วยเหลือบ้านเมืองอะไร เพราะการออกมาพูดแต่ละครั้งไม่มีเนื้อหาสาระอะไรที่เป็นประโยชน์ แต่พูดเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองเท่านั้น อยากมีบทบาทช่วยพรรคเพื่อไทยเป็นการตีกินทางการเมือง กลัวคนจะลืม โดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร หวังแต่ว่าการออกมาพูดจะช่วยให้พรรคเพื่อไทยได้เข้ามามีอำนาจเป็นรัฐบาล เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือตัวเองให้พ้นผิดและได้กลับประเทศไทยเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม หากนายทักษิณอยากกลับประเทศไทย และแน่จริงก็ขอให้กลับมาเลยตอนนี้ กลับมารับโทษที่ตัวเองได้ทำผิดเอาไว้ แค่นี้ก็ได้กลับประเทศไทยแล้วโดยไม่ต้องรอเวลา แต่ก่อนจะกลับมาประเทศไทย ตนจะต้องถามกลับสองข้อสั้นๆ ว่า 1.ถ้ากลับมาพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายคืนให้ประเทศชาติประชาชนในโครงการที่เกิดการทุจริตในยุครัฐบาลนายทักษิณ และยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ และ 2.พร้อมที่จะกลับเข้ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ถ้านายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมรับเงื่อนไข 2 ข้อนี้ ตนคิดว่าพี่น้องคนไทยส่วนใหญ่คงไม่ขัดข้องที่จะให้กลับได้ถ้าทำตาม 2 ข้อนี้ ไม่ว่านายทักษิณกับน้องสาวจะเดินเข้าทางช่องประตูหน้าหรือประตูหลังหรือประตูไหนๆก็ตาม ตนมั่นใจว่าคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับได้อย่างแน่นอน










