วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ ศูนย์ข้อมูล โควิด-19 เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.) ได้โพสต์ข้อความเตือนเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) สามารถแพร่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว คาดว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 10,000 ราย ในสัปดาห์หน้า ให้รีบพาผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเสี่ยงไปฉีดวัคซีน เพื่อลดการป่วยหนักและการเสียชีวิต
อีกทั้งยังรายงานข้อมูลในประเทศอังกฤษ กว่า 90% ของผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า พบผู้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 ยังสามารถติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวได้ แต่ทั้งนี้ เมื่อฉีดวัคซีนแล้ว ยอดผู้ป่วยอาการหนัก มีเพียง 8% และยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนลดลงอย่างชัดเจน
ซึ่งจากโพสต์ดังกล่าวทำให้ประชาชนต่างๆเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งมีหลายความเห็น ระบุไปในทำนองเดียวกันว่า ผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง อยากจะฉีดวัคซีนกันทั้งนั้น แต่ไม่มีวัคซีนให้ฉีด บางคนไปจุดบริการฉีดวัคซีนแต่ต้องโดนบอกให้กลับไปก่อน เพราะไม่มีวัคซีน และยังมีบางความเห็นมองว่า ขณะนี้ขอเพียงหาจุดบริการตรวจหาเชื้อโควิดกลุ่มเสี่ยงให้ได้ก่อน หนึ่งความเห็นชี้ให้เห็นว่า ผู้สูงอายุควรได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกๆ ตามหลักสากล ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วก็ปฏิบัติกัน ไม่ใช่การรอให้ถึงวันนี้แล้วเพิ่งมากระตุ้นให้ผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ยังมีผู้แสดความเห็นระบุอีกว่า ให้รีบนำวัคซีน mRNA มาให้แพทย์และประชาชนฉีดฟรี เพราะไม่เคยเห็นประเทศใดในโลกที่ต้องจ่ายเงินกันแย่งวัคซีน ก่อนจะบอกให้ไปดูตัวอย่างประเทศเยอรมันที่มีการวางแผนวัคซีนไปถึง ปี 2022 แล้ว มีการฉีดวัคซีน mRNA เป็นเข็มที่ 2 แล้ว ดังนั้นอย่าช้า เป็นต้น
ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าจำนวนผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ศบค. รายงาน (ข้อมูลระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-6 ก.ค.64) ระบุว่า กลุ่มผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 1,723,251 คน และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 1,023,501 คน
