“อนุทิน” หนุน “ผู้ว่าฯสุรินทร์” ดันขึ้นแท่นจังหวัดแรก เปลี่ยนโควิดเป็นโรคประจำถิ่น



  • หวังฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ดันสุรินทร์เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของโลก
  • ย้ำต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย
  • ชี้ต้องรณรงค์ให้ประขาชนมารับวัคซีน ลั่นฉีดได้ครอบคลุมแล้วต้องกล้าผ่อนคลายมาตรการ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานสัมมนา การเปิดประเทศตามโครงการTravel Bubble ระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้าน(ไทย-กัมพูชา) ว่า จังหวัดสุรินทร์ ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีการค้าชายแดนที่สำคัญ เราจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจให้กับคนในพื้นที่ และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจ วิธีการคือ ต้องเร่งฉีดเข็มบูสเตอร์ และมีการคัดกรองชาวต่างชาติเข้ามาในพื้นที่ ประเทศไทยพยายามเปิดช่อง ให้มีการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย และต้องเข้าใจโรคด้วยขอย้ำว่า เรื่องการฉีดวัคซีนนั้นสำคัญมาก เพราะช่วยลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการเสียชีวิต 

ดังนั้น ก็ต้องรณรงค์ให้มารับวัคซีน เมื่อเราฉีดได้ครอบคลุม ต้องกล้าผ่อนคลายมาตรการ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ วางเป้าว่า จะเป็นจังหวัดแรกที่เปลี่ยนโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น ถือว่าเป็นการนำร่องการผ่อนคลายมาตรการให้โควิดเป็น Endamic เราก็พร้อมสนับสนุนท่าน เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ ทุกวันนี้ เราได้พัฒนาระบบสุขภาพในจังหวัดสุรินทร์ ได้ให้เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง และนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ก็เดินหน้าแล้ว ผู้ป่วยโรคไต ได้ฟอกไตฟรี  ช่วยลดภาระประชาชน โรงพยาบาลสุรินทร์ นับว่า มีความพร้อมในการดูแลประชาชน ปัจจุบัน เราใช้นโยบาย 3 หมอ เข้าถึงผู้ป่วยมากขึ้น 

นายอนุทิน กล่าวว่า ในฐานะที่รับผิดชอบกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีโอกาสได้ดูแลสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชนมองจังหวัดสุรินทร์ เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีศักยภาพและจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนพัฒนาอย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับการเปิดเมืองสู่อาเซียน เราต้องปรับเปลี่ยนเตรียมความพร้อมด้านระบบการบริการสุขภาพทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพ  ซึ่งเป็นประโยชน์ต่องานสาธารณสุขในอนาคต  

ในเรื่องการคมนาคมขนส่ง ได้เดินหน้าโครงการการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อโครงข่ายทางหลวง (MR3) เส้นทางระหว่าง ด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ถึง ด่านบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ  ระยะทาง 470 กม. ขนาด 8 เลน  นับเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่จะเปิดประตูสู่อาเซียน การเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างประเทศกัมพูชา ไทย และลาว โดยเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ ท่านศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เมื่อทำสำเร็จจะเกิดประโยชน์มากมาย  

“ชัดเจนว่า การท่องเที่ยว เป็นรายได้หลักของประเทศ เราจำเป็นต้องช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยวพัฒนาสุรินทร์ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของโลก ผมทราบว่า ที่สุดในโลกอยู่ที่สุรินทร์ 3 เรื่อง คือ ช้างเลี้ยงมากที่สุดในโลก  ข้าวหอมมะลิอร่อยที่สุดในโลก ปราสาทเก่าแก่ที่สุดในโลก คือที่ ปราสาทภูมิโปน เราต้องหาทางนำจุดแข็งตรงนี้ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้พี่น้องชาวสุรินทร์ให้ได้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว