อคส.อึ้ง! ถูกทวงค้ำประกันสัญญาข้าวถุงปี 55



  • ทั้งที่ผู้ปรับปรุงข้าวส่อเอี่ยวทุจริตทำข้าวบรรจุถุง
  • และไม่มีหลักฐานปรับปรุงคุณภาพ-บรรจุถุง
  • อคส.ฟ้องกลับฐานไม่คืนข้าวที่เหลือ 3.6 พันล้านบาท

 นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ช่วงปลายปี 65 บริษัทเอกชน 5 ราย ที่อคส.ได้คัดเลือกให้เป็นผู้ปรับปรุงคุณภาพข้าวและบรรจุข้าว ตามโครงการข้าวบรรจุถุง (อคส.) เพื่อลดค่าครองชีพให้ผู้บริโภค ที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติให้อคส.ดำเนินการตั้งแต่ปี 54-55 นั้น ได้เรียกร้องให้อคส.คืนหลักค้ำประกันสัญญา และเรียกค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงข้าวบรรจุถุงตามโครงการดังกล่าวรวมกันกว่า 3,000 ล้านบาท

 ทั้งนี้ หลังจากถูกเรียกร้องแล้ว ตนได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและสืบสวนข้อเท็จจริง ว่าอคส.สามารถคืนหลักประกันสัญญา และจ่ายค่าใช้จ่ายตามที่ทั้ง 5 รายเรียกร้องหรือไม่ เพราะโครงการดังกล่าวมีปัญหาทุจริต และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ไต่สวนหาข้อเท็จจริงมาตั้งแต่ปี 57 จนปัจจุบัน โดยผลการสืบสวน ของคณะกรรมการตรวจสอบฯของอคส. พบว่า ยังไม่ได้ข้อยุติว่า ทั้ง 5 บริษัท ได้ปรับปรุงข้าวสารบรรจุถุงจริงหรือไม่ เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานการดำเนินการ และทั้ง 5 รายเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่

 นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนการทุจริตของโครงการ จึงถือว่า ทั้ง 5 ราย ยังคงมีภาระผูกพันตามสัญญากับอคส.อยู่ หาก อคส.คืนหลักค้ำประกันและจ่ายค่าใช้จ่ายแล้ว และภายหลัง ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทั้ง 5 รายมีความผิด เท่ากับว่า อคส.ดำเนินการไปโดยมิชอบเป็นเหตุให้รัฐเสียหายอย่างร้ายแรง

 ดังนั้น อคส.จึงเห็นควรให้รอผลการไต่สวนของ ป.ป.ช.ก่อนจึงจะพิจารณาได้ พร้อมทั้งส่งผลการพิจารณาและส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปให้ ป.ป.ช.ประกอบการพิจารณาภายในอายุความต่อไปแล้ว โดยคาดว่า ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดได้โดยเร็ว เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ ป.ป.ช.เพิ่งชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องกรณีที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ได้ทำข้าวสารบรรจุถุงแจกจ่ายผู้ประสบภัยน้ำท่วมในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับข้าวถุงของอคส.ไปแล้ว

 สำหรับโครงการข้าวสารถุงของอคส. นบข. และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว มีมติเห็นชอบให้นำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 54/55 จำหน่ายให้แก่ อคส.เพื่อนำไปบรรจุถุงจำหน่ายให้แก่ประชาชนในราคาต่ำกว่าราคาตลาด เพื่อช่วยลดค่าครองชีพ แต่ระหว่างดำเนินการ มีประชาชนร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ว่าไม่สามารถหาซื้อข้าวสารถุงดังกล่าวได้ กมธ.จึงแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการ เพื่อตรวจสอบ ต่อมาปี 57 ได้สรุปผลและยื่นร้องเรียนต่อป.ป.ช. ว่า เจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน รวมถึงบริษัทปรับปรุงข้าว 5 รายเข้าข่ายร่วมกันทุจริต โดยไม่ได้ปรับปรุงข้าวบรรจุถุงจริง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช.

 นอกจากนี้ ในปี 56 คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว มีมติให้ระงับโครงการข้าวสารบรรจุถุงไว้ก่อน และให้ อคส.รายงานปริมาณข้าวสารที่เบิกจากคลังเพื่อบรรจุถุงและจัดจำหน่าย ซึ่งจากการที่กระทรวงพาณิชย์ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีการอนุมัติให้นำข้าวสารมาดำเนินโครงการ 2.5 ล้านตัน ส่งมอบข้าวสารแก่ อคส. เพื่อนำไปปรับปรุงคุณภาพแล้ว 1.11 ล้านตัน จำหน่ายข้าวสารที่ปรับปรุงบรรจุถุงแล้ว 590,596 ตัน นำข้าวสารที่รับมอบชำระเป็นค่าจ้างปรับปรุง 24,090 ตัน เหลือข้าวสารที่อยู่กับผู้รับจ้างปรับปรุง 496,213 ตัน

 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 ก.ค.56 อคส.มีหนังสือถึงผู้รับจ้างปรับปรุงทุกราย ให้ส่งมอบข้าวสารที่เบิกไปคืนแก่ อคส. ให้เสร็จภายในวันที่ 31 ส.ค.56 แต่จนถึงขณะนี้ บริษัทปรับปรุงข้าวยังไม่คืนข้าวให้อคส. จึงได้ส่งเรื่องให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อติดตามกรรมสิทธิ์คืนจากผู้รับจ้างปรับปรุง โดยเรียกให้ชดใช้ความเสียหายกว่า 3,600 ล้านบาท