หอการค้าไทยเชื่อเลิก “Test & Go” ไม่กระทบเศรษฐกิจมากนัก



.ย้ำรัฐบาลตัดสินใจถูกต้องสกัด “โอมิครอน” เข้าประเทศ

.ปี 65 ลุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 5-6 ล้านคน

.ต่ออายุ “คนละครึ่ง” กระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้าต่อเนื่อง

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณียกเลิก Test & Go ชั่วคราวถึงวันที่ 4 ม.ค.65 เพื่อสกัดโอมิครอนเข้าประเทศนั้น หอการค้าไทย เห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมาไทยบรรลุเป้าหมายในระยะแรก ที่สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เกินว่า 100 ล้านโดส หรือ 70% ของประชากร ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งรัฐบาลยังเตรียมวัคซีนเพื่อเป็นเข็มกระตุ้นเพิ่มเติมอีกในปีหน้า ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับประชาชนได้ด้วย

“หอการค้าไทย เห็นด้วยกับการยกเลิกมาตรการดังกล่าวชั่วคราว แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะกระทบต่อเศรษฐกิจบ้าง แต่เชื่อว่าจากข้อมูลทางสาธารณสุขของภาครัฐที่มีอยู่ตอนนี้ ถือว่า เป็นการตัดสินใจที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นทาง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างอีกครั้งจนควบคุมไม่ได้ และเชื่อว่า รัฐบาลจะไม่มีการล็อกดาวน์เหมือนที่ผ่านมา เพราะสร้างความเสียหายกับประเทศมหาศาล หรือสร้างความเสียหายสูงถึงเดือนละ 200,000-300,000 ล้านบาท”  

ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มีการอนุมัติให้เข้ามาแล้วราว 110,000 คนผ่านทางแซนด์บ็อกซ์ และ Test & Go จากที่มีการขออนุมัติทั้งหมด 200,000 คน และเหลือคนที่จะเข้ามาอีก 90,000 คนนั้น จำเป็นที่จะต้องดูแลติดตามก่อนปิดลงทะเบียน และคิดว่า จะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย เพราะที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่มากนัก ส่วนปี 65 คาดว่า ไตรมาสแรก อาจมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเข้ามาต่อเนื่อง และหากโอมิครอนคลี่คลาย นักท่องเที่ยวจะเข้ามามากขึ้นในไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยคงคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยที่ 5 – 6 ล้านคน

สำหรับการที่รัฐบาลออกมาตรการเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย โดยโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ที่คาดว่าจะเริ่มในเดือนมี.ค.-เม.ย.65 จะมีส่วนช่วยกระตุ้นและพยุงการใช้จ่ายในช่วงต้นปี 65 ซึ่งหลังจากนี้คิดว่า รัฐบาลน่าจะมีมาตรการใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ จากความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอน ส่วนการจัดงานเคาต์ดาวน์ปีใหม่นั้น จะช่วยความคึกคักและบรรยากาศของการใช้จ่ายให้มากขึ้น แต่ขอให้ทุกคนช่วยกันป้องกัน และระมัดระวังการแพร่ระบาดด้วย