“สุวรรณภูมิ” รับมือไฮซีซัน-หยุดปีใหม่เพิ่ม 5 บริการ



AOT นำสุวรรณภูมิรับมือไฮซีซัน Q4 ปี66 เที่ยวบินคึกคัก “ระหว่างประเทศ” พุ่ง 670 เที่ยว/วัน โต 10 % “ในประเทศ” เพิ่ม 5% ยุโรปเคลียร์สล็อตรอฟังข่าวดีหลังปีใหม่ 3 แอร์ไลน์ส ช่วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ลุยบริการ 5 เรื่อง

  • สนามบินสุวรรณภูมิบินฤดูหนาวผู้โดยสารอินเตอร์แน่น 1.5 แสนคน/วัน ในประเทศ 3.2 หมื่นคน/วัน
  • จัดแถวทุกหน่วยรับมือหยุดปีใหม่ 15 ธ.ค.นี้ ตม.ลดขั้นตอนตรวจพาสปอร์ต เพิ่ม Auto Chanel
  • บริษัทขนสัมภาระกระเป๋าจัดคนรอแนะผู้โดยสารใช้ระบบเช็คอัตโนมัติสะดวกเร็วลดคิวยาว

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เปิดเผยว่า สถานการณ์ในสนามบินสุวรรณภูมิเข้าสู่ไฮซีซันตารางบินฤดูหนาวไตรมาส 4 เริ่มตุลาคม-ธันวาคม 2566 กับไตรมาส 3 ปีนี้ (กรกฎาคม-กันยายน 2566) ปริมาณเที่ยวบิน “ภายในประเทศ” มี 238 เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 2.5% ผู้โดยสาร 32,000 คน/วัน เพิ่มขึ้น 5% ใกล้เคียงกับก่อนโควิดปี 2562 แล้ว ส่วนเที่ยวบิน “ระหว่างประเทศ” ตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม 2566 มีเฉลี่ย 670 เที่ยว/วัน เพิ่ม 10% จำนวนผู้โดยสาร 150,000 คน/วัน

โดยมีสายการบินนานาชาติให้บริการเที่ยวบินที่เข้ามาเสริมทัพ 6 สายการบิน ประกอบด้วย “ตลาดระยะใกล้ : shorthaul” จากแถบเอเชียมีรายใหม่เข้ามาเพิ่ม 3 สายการบิน เช่น สายการบินมองโกเลีย หยุดบินเข้าไทยมานานแล้วก็มีโลว์คอสต์อย่าง 9Air จากกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วน “ตลาดระยะไกล : Longhaul” น้องใหม่ล่าสุดคือ SAS หรือสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส ซึ่งห่างหายจากสุวรรณภูมินานกลับมาเปิดบินตรงจากโคเปนเฮเก้นสู่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วยังมีอีก 2 สายการบินจากโปแลนด์ กับนอร์เวย์ส ด้วย

ขณะนี้ยังมีอีกหลายสายการบินระหว่างประเทศส่วนใหญ่จากยุโรปกำลังขอเปิดบินตรงมายังสุวรรณภูมิอยู่ในขั้นตอนขอสล็อตเวลาทำการบินขึ้นลงซึ่งมีสล็อตเพียงพอจัดสรรให้สายการบินต่าง ๆ ได้ โดยจะต้องเน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกสบายให้ลูกค้า ดังนั้นทางคณะกรรมการสล็อตก็พยายามพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนอนุมัติ

ส่วนอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ SAT-1 เริ่มเปิดบริการเป็นทางการผ่านเข้าสู่เดือนที่สองแล้ว ยังคงมีผู้ใช้บริการ 3 สายการบิน ได้แก่ ไทยเวียตเจ็ท เฉลี่ย 4-8 เที่ยว/วัน ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ 13 เที่ยว/วัน การบินไทย 13 เที่ยว/วัน แล้วทยอยเพิ่มความถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยให้บริการแตกต่างจากสายการบินอื่นคือ เที่ยวบินขาเข้าจะใช้อาคารผู้โดยสารหลังหลักหรือ Main terminal ส่วนขาออกจะใช้อาคาร SAT-1 หลังปีใหม่ 2567 จะย้ายเที่ยวบินขาออกไปใช้ SAT-1 วันมากขึ้น รวมทั้งหลังปีใหม่ไปแล้วจะมีไปเพิ่มอีก 3 สายการบิน ได้แก่ มหันต์แอร์ สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์สและเตอร์กีสแอร์ไลน์ส

ผลตอบรับทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน SAT-1 ตอนนี้เป็นเรื่องการเร่งรัดสร้างเลาจน์ ไฮไลต์เป็นของสายการบินเอมิเรตส์ลงทุนสร้างขนาดใหญ่อันดับ 2 รองจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นฐานการบินหลักซึ่งมีเลาจน์หลักของสายการบินยักษ์ใหญ่ดังกล่าว ประมาณกลางปี 2567 จะแล้วเสร็จก็จะย้ายจากอาคารผู้โดยสารหลักไปยัง SAT-1 ขณะเดียวกัน “ร้านค้าเชิงพาณิชย์” ภายในอาคารหลังใหม่มีเพียงพอให้บริการ ซึ่งขณะนี้มีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการ SAT-1 ยังไม่หนาแน่นมีเฉลี่ย 4,500 คน/วัน

ช่วงใกล้เทศกาลเดินทางหนาแน่นช่วง “เทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่” เริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนธันวาคม 2566-ต้นเดือนมกราคม 2567 สนามบินสุวรรณภูมิได้เตรียมความพร้อมรับมือปริมาณผู้โดยสารจำนวนมากไว้แล้ว บริหารจัดการเพิ่ม 5 เรื่อง ประกอบด้วย

เรื่องที่ 1 บริการเช็คอินสายการบินมีนโยบายให้พร้อมทุกเคาน์เตอร์ รวมทั้งระบบเครื่องเช็คอินอัตโนมัติที่เพิ่งติดตั้งใหม่

เรื่องที่ 2 ความพร้อมของบุคลากรได้ประสานกับทางผู้ให้บริการภาคพื้น (ground handing) ทั้ง 3 บริษัท ตอบรับเป็นอย่างดีมีพนักงานเพียงพอขนสัมภาระผู้โดยสาร

เรื่องที่ 3 บริการรถสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ ขณะนี้มีเพียงพอวันละประมาณ 4,500 คัน จากเดิมเคยขาดแคลนมากมีคิวรอยาวมากทางสุวรรณภูมิได้ประสานงานเรียบร้อยกับทางกรมขนส่งทางบก

เรื่องที่ 4 ประสานกับหน่วยความมั่นคงเน้นมาตรการความปลอดภัยตามเกณฑ์ปฏิบัติสากล

เรื่องที่ 5 บริการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ในสุวรรณภูมิ ได้ประชุมแล้วเช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม2566 เป็นต้นไป การตรวจหนังสือเดินทางของผู้โดยสารจะลดขั้นตอนลง โดยได้นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาแทนมากขึ้น ระบบตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือจะสะดวกรวดเร็วขึ้น เพื่อทำให้จราจรการตรวจหนังสือเดินทางคล่องตัวเร็วขึ้น โดยคำนึงถึงเกณฑ์มาตรฐานสากล ส่วนอัตรากำลังพล สตม.จัดคนเข้ามาเตรียมบริการช่วงเทศกาลปีใหม่

รวมทั้ง ทอท./AOT ลงทุนจัดหาอุปกรณ์บริการแบบอัตโนมัติหรือ Auto Chanel ซึ่งเป็นการตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัต ปัจจุบันมีบริการเฉพาะหนังสือเดินทางคนไทย เมื่อเข้าประเทศจะมีเครื่องดังกล่าวบริการ ประมาณไตรมาส 3 ปี2567 จะนำเครื่องมาติดตั้งให้ใช้บริการบริเวณ “ขาออก” ทำให้รวดเร็วมากขึ้น เหมือนกับหลายประเทศทำกัน

ผอ.กิตติพงศ์ กล่าวว่าปัจจุบันนโยบายใหญ่ของ AOT จัดทำแพกเกจมอบสิทธิพิเศษทุกสนามบินที่อยู่ในความดูแลให้กับสายการบินลูกค้า โดยได้พูดคุยกับทางสมาคมตัวแทนสายการบิน หรือ AOC ถึงค่าธรรมเนียมบริการนำเครื่องขึ้น-ลง (landing fee) ลานจอด (parking fee) การใช้ประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกแต่ละรายการซึ่งจะช่วยดึงดูดให้สายการบินนานาชาติสนใจเลือกมาไทยมากขึ้น

สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ ตอนนี้บรรดาร้านค้าเชิงพาณิชย์ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ช้อปปิ้ง ที่เคยปิดไปช่วงโควิดจะกลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบ รวมทั้งจะขอรณรงค์ให้ผู้โดยสารลองใช้ “Auto Chanel” เช็คอินจากตู้อัตโนมัติด้วยตนเอง ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 30 % ตามเป้าต้องการให้ใช้ถึง 50% เพราะสายการบินต่าง ๆ จะทยอยลดพนักงานเคาน์เตอร์เช็คอินลงเรื่อย ๆ ซึ่งหลายประเทศอย่างสิงคโปร์ก็พัฒนาเป็นสนามบินให้บริการตนเองด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัตเกือบทั้งหมดแล้ว สนามบินของ AOT โดยเฉพาะสุวรรณภูมิเองก็มีเป้าหมายจะก้าวไปสู่สนามบินที่ใช้ระบบอัตโนมัติให้ได้มากที่สุดเช่นกัน

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen