“สาธิต” เผย “บิ๊กตู่” ยังไม่เรียกประชุมหลังพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายแรก ชี้รอผลตรวจผู้ใกล้ชิดจะเป็นรายที่ 2 หรือไม่



นายสาธิต​ ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอเมริกา​ 1​ ราย​ เมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) และมีผู้เสี่ยงสูง 17 ราย ว่า สถานการณ์ล่าสุดยังเป็นข้อมูลเดิม คือพบผู้ติดเชื้อเพียง 1 ราย​ ต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง โดยจากการสอบสวนโรคมีผู้เสี่ยงสูงทั้งหมด 17 ราย และจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19​ มีผลเป็นลบ 16 ราย และมีผลเป็นบวก 1 ราย ซึ่ง​ 1​ รายที่มีผลเป็นบวก​เป็นเจ้าหน้าที่โรงแรม ที่เป็นผู้ส่งอาหารให้นักท่องเที่ยวชาวสหรัฐฯ คนดังกล่าว

ทั้งนี้ ได้มีการดำเนินการสอบสวนโรคกับเจ้าหน้าที่โรงแรมรายนี้แล้ว​ พร้อมกับนำผลบวกนั้นไปตรวจสอบว่าเป็นเชื้อโอไมครอนหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม​ ได้ให้เจ้าหน้าที่โรงแรมรายดังกล่าว เข้ารักษาตัวที่สถาบันบําราศนราดูรแล้ว​ ทั้งนี้ ในส่วนการสอบสวนโรคจะต้องแยกเป็น 2 ประเด็นคือ ดูว่าเขาติดเชื้อโควิด-19 จากการเดินทางกลับต่างจังหวัด ที่​ จ.อุบลราชธานีหรือไม่หรือติดเชื้อโควิดมาจากนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐฯ โดยต้องรอผลการตรวจเชื้อว่า เป็นโอไมครอนหรือไม่ประมาณ 3-4 วัน

นายสาธิต​ กล่าวว่า​ การเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยว ยังคงต้องให้เข้มมาตรการป้องกัน ทั้งนี้การพบโรคโควิด-19 กับการพบเชื้อกลายพันธุ์นั้นถือเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะโรคระบาดเราไม่สามารถปิดกั้นได้ ซึ่งขณะนี้ตามข้อมูลยังไม่พบว่าเชื้อโอไมครอนมีอาการรุนแรง และตามมาตรการของสาธารณสุขไทย หากผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง 80% เราสามารถใช้วิธี โฮมไอโซลูชั่นได้ เราเชื่อว่าศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทยดูแลได้

ทั้งนี้เมื่อถามถึงกรณีที่นายสาธิตเคยระบุว่า หากพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในประเทศไทย จะรีบรายงานนายกรัฐมนตรีทันที นายกฯ ได้เรียกประชุมเพื่อตัดสินใจอย่างไรหรือไม่ นายสาธิต​ กล่าวว่า นายกฯ รับทราบข้อมูลแล้ว และทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการประสานเป็นระยะว่า จะประเมินสถานการณ์และต้องตัดสินใจอย่างไร โดยขณะนี้ทางกระทรวงฯ ยังต้องเดินหน้าระบบคัดกรองอย่างเข้มงวด ซึ่งทางนายกฯ ยังไม่ได้เรียกประชุม เพื่อประเมินสถานการณ์ไวรัสโอไมครอนแต่อย่างใด

นอกจากนี้เมื่อถามว่า สถานการณ์โอไมครอนขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขยังไม่จำเป็นต้องเสนอมาตรการเข้มถึงขั้นต้องล็อคบางส่วน เพื่อป้องกันเรื่องการท่องเที่ยวใช่หรือไม่ นายสาธิต​ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสาธารณสุขยังไม่มีการเสนอมาตรการอะไรเพิ่มเติม