สองมาตรฐาน! “เสรีรวมไทย”ประณามรัฐรับมือม็อบสองกลุ่มไม่เหมือนกัน



  • ขอตรวจสอบใช้อำนาจเกินกว่าเหตุหรือไม่
  • ทั้งที่มาชุมนุมด้วยความสงบเช่นเดียวกัน
  • เพียงแต่คิดต่างจากรัฐบาล

น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงเหตุปะทะระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกเกียกกาย เขตดุสิต กทม.เมื่อวันที่17พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณหน้ารัฐสภาและขอประณามเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจกับผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการจงใจปล่อยให้มวลชนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาปะทะกับม็อบราษฎร จนเหตุการณ์บานปลาย มีผู้บาดเจ็บถึง 41 คน และที่สำคัญครั้งนี้มีการยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมด้วย จึงถือเป็นเรื่องที่จะต้องมีคนรับผิดชอบกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น

 “รัฐบาลชุดนี้มีพฤติกรรม  2  มาตรฐานกับผู้ชุมนุมอย่างชัดเจน เพราะผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งตำรวจไฟเขียวให้เดินทางผ่านด่านแนวกั้นเข้ามาทำกิจกรรมหน้าสภาได้ แต่กับกลุ่มม็อบราษฎรตำรวจกลับใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการใช้แก๊สน้ำตาทั้งที่พวกเขามาชุมนุมด้วยความสงบเช่นเดียวกัน เพียงแต่คิดต่างจากรัฐบาลและมีจำนวนมากกว่ากลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น” น.ส.นภาพรกล่าว

น.ส.นภาพร กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะการที่ตำรวจปล่อยให้ประชาชนกลุ่มหนึ่งสามารถนำอาวุธทั้งมีดและปืนเข้าไปทำร้ายม็อบราษฎรถึงหน้าสภาได้ ทั้งที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์อยู่  อย่างนี้จะให้ประชาชนเข้าใจว่าอย่างไร 

“รัฐบาลต้องมีคำตอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการปล่อยให้มีการใช้กระสุนจริงยิงใส่ม็อบราษฎร รัฐบาลจะต้องมีคำตอบกับสังคมในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด”