สหรัฐฯ เปิดไต่สวนไทยทุ่มตลาดสินค้าที่นอน



  • ตั้งราคาขายในสหรัฐฯต่ำกว่าที่ขายในประเทศ
  • อุตสาหกรรมภายในร้องเรียนเสียหายรุนแรง
  • ส่วนไต่สวนยางล้อรถยนต์ใกล้ได้ข้อสรุปเก็บภาษีเพิ่มแล้ว

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯได้ประกาศเปิดการไต่สวนการทุ่มตลาด (เอดีสินค้าที่นอน ที่มีแหล่งกำเนิดจาก 7 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซียกัมพูชา เซอร์เบีย และตุรกี ตามการร้องเรียนของผู้ผลิตที่นอนของสหรัฐฯ ที่พบว่า ปริมาณการนำเข้าจากทั้ง 7 ประเทศเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการทุ่มตลาด หรือตั้งราคาขายในสหรัฐฯขายต่ำกว่าราคาขายในประเทศผู้ผลิต จนส่งผลให้ผู้ผลิตของสหรัฐฯเสียหาย เช่น ส่วนแบ่งตลาดลดลง ยอดขายลดลง กำไรลดลง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการตอบโต้การอุดหนุน (ซีวีดีสินค้าที่นอนจากจีนด้วย 

  “ในเร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯจะส่งแบบสอบถามมาให้ผู้ผลิตที่นอนของไทยได้ตอบข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา แต่เท่าที่ได้หารือกับผู้ผลิตที่นอนของไทย พบว่า ถ้าไทยถูกใช้มาตรการเอดีจะไม่เป็นธรรม เพราะที่นอนไทยที่ส่งออกไปสหรัฐฯมีหลายวัตถุประสงค์ เช่น ที่นอนเพื่อสุขภาพ ที่นอนป้องกันการปวดหลัง เป็นต้น ซึ่งผู้ผลิตของสหรัฐฯ อาจไม่ได้ผลิต หรือผลิตได้น้อย จึงทำให้ผู้บริโภคชื่นชอบและมีการนำเข้ามาก ที่สำคัญ ไม่ได้มีการแบ่งพิกัดศุลกากรในการส่งออก ว่าพิกัดนี้เป็นที่นอนเพื่อสุขภาพ พิกัดนี้เป็นที่นอนทั่วไป จึงทำให้เหมารวมไปหมดว่า ที่นอนจากไทยทุกชนิดจะถูกเปิดไต่สวนเอดี” 

สำหรับการส่งออกที่นอนนั้น ปี 61 ไทยส่งออกได้ 75,000 ชิ้น มูลค่า 40 ล้านบาท แต่ในปี 62 ปริมาณเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่830,000 ชิ้น มูลค่าอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท  

ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (เอดี/ซีวีดีสินค้ายางรถยนต์ ที่มีแหล่งกำเนิดจาก 4 ประเทศ  คือ ไทย เกาหลีใต้ เวียดนาม และไต้หวันเมื่อเดือนพ..63 ตามการร้องเรียนของสหภาพแรงงานเหล็กสหรัฐฯ ที่พบว่า การนำเข้าเพิ่มขึ้นถึง 20% ระหว่างปี 60-62 หรือคิดเป็นจำนวนยาง 85.3 ล้านเส้นมูลค่า 4,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นผลจากการทุ่มตลาดนั้น นายกีรติ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เลือกผู้ผลิตของทั้ง 4 ประเทศๆ ละ 2 รายให้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลการผลิต  การส่งออก ยอดขาย ผลกำไร ฯลฯ โดยต้องส่งกลับไปภายในวันที่ 4 ..นี้ เพื่อประกอบการพิจารณา คาดจะประกาศผลตัดสินขั้นต้นเร็วๆ นี้ จะเก็บภาษีเอดีเพิ่มในอัตราเท่าไร