

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 พ.ย. 2563) สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,038 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 13-18 พฤศจิกายน 2563 เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สรุปผลได้ ดังนี้ 1. คนไทยสนใจติดตามข่าวการเลือกตั้ง“ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา” ในระดับใด
อันดับ 1 ค่อนข้างสนใจ 58.38%
อันดับ 2 สนใจมาก 31.60%
อันดับ 3 ไม่สนใจ 10.02%
2. เหตุผลที่ทำให้คนไทยติดตามข่าวการเลือกตั้ง “ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา”
อันดับ 1 มีผลต่อเศรษฐกิจโลก 73.80%
อันดับ 2 สหรัฐฯ เป็นประเทศมหาอำนาจ 60.75%
อันดับ 3 ลุ้นว่าใครจะเป็นผู้ชนะ 49.17%
3. หลังการเลือกตั้ง “ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา” เศรษฐกิจของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
อันดับ 1 น่าจะดีขึ้น 48.36%
อันดับ 2 น่าจะเหมือนเดิม 47.11%
อันดับ 3 น่าจะแย่ลง 4.53%
4. กรณีการเลือกตั้ง “ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา” มีเรื่องใดที่สามารถนำมาเป็นแบบอย่างทางการเมืองและสังคมไทยได้
อันดับ 1 ผู้นำประเทศต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน 60.84%
อันดับ 2 ความตื่นตัวของประชาชนในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 56.74%
อันดับ 3 ระบอบประชาธิปไตย 53.42%
5. คนไทยได้เรียนรู้อะไรจากการติดตามข่าวการเลือกตั้ง “ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา” ในครั้งนี้
อันดับ 1 ระบบการเลือกตั้งของต่างประเทศ 67.52%
อันดับ 2 การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน 59.57%
อันดับ 3 วิธีการแสดงวิสัยทัศน์ของนักการเมือง 58.39%
6. สิ่งที่ “คนไทย” อยากฝากถึง “ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา” คนใหม่
อันดับ 1 การเป็นผู้นำประเทศ/ผู้นำโลกที่ดี 64.73%
อันดับ 2 การรักษามิตรภาพ /ความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาประเทศ 61.48%
อันดับ 3 การไม่เอาเปรียบ ไม่กดขี่ คำนึงถึงหลักมนุษยชน 57.73%
* หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
ด้าน น.ส.พรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ชาวสหรัฐอเมริกาตื่นตัวอย่างมาก มีผู้ใช้สิทธิล่วงหน้ามากที่สุดในรอบ 100 ปี ผลคะแนนที่พลิกไปมา ทำให้ทั่วโลกต่างจับตาและติดตามผลการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด ไทยเองก็ยังคาดหวังว่าประธานาธิบดีคนใหม่ น่าจะช่วยให้ทิศทางเศรษฐกิจของไทยนั้นดีขึ้นไม่มากก็น้อย แสดงให้เห็นว่าคนไทยให้ความสนใจและมีความหวังว่าประเทศไทยจะได้รับผลทางบวกจากผลการเลือกตั้งครั้งนี้
ส่วน ผศ.ยอดชาย ชุติกาโม ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิตเปิดเผยว่า แม้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่า นายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต จะได้รับชัยชนะ ซึ่งส่งผลต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง น้ำมัน ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก แม้กระทั่งในประเทศไทยต่างขานรับในเชิงบวกต่อชัยชนะดังกล่าว แต่ผลกระทบในระดับเศรษฐกิจโลก เราคงต้องย้อนไปดูแนวนโยบายของพรรคเดโมแครตในยุคโอบามา ซึ่งขณะนั้น ไบเดน เป็นรองประธานาธิบดีอยู่
“มีความเป็นไปได้ว่านโยบายเหล่านั้นจะได้รับการสานต่อในยุคของเขา อาทิ การประกาศลดค่าเงินดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศ การกลับเข้าร่วมข้อตกลงกรุงปารีสเพื่อลดโลกร้อน การใช้นโยบายเศรษฐกิจสีเขียว(Green Economy) ที่สนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ การหวนกลับไปสู่กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคอย่าง TPP ซึ่งนโยบายเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลไทยจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด แบบหายใจลดต้นคอกันเลยทีเดียว” ผศ.ยอดชาย กล่าว