สภาพัฒน์ยันไม่ต้องกังวลเงินไม่พอ เปิดให้เห็นเงินบนหน้าตัก 390,846 ล้านบาท ใช้พยุงเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชนจากวิกฤตโควิด-19



  • แจงวงเงินจากงบประมาณปี 2564 เงินกู้โควิด-19
  • และการขอจัดสรรงบประมาณปี 2565

นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ(สศช.) ในฐานะโฆษก สศช.เปิดเผยว่า กรณีที่มีประเด็นข้อกังวลในเรื่องที่รัฐบาลไม่มีวงเงินเพียงพอในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชน เนื่องจากมีการใช้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน
1 ล้านล้านบาท (พ.ร.ก. เงินกู้โควิด-19) ไปเต็มจำนวนแล้วนั้น ขอให้ให้มั่นใจได้ว่า ในปี 2564 และ 2565 รัฐบาลยังคงมีวงเงินเพียงพอสำหรับการดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวม 390,846 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันการดำเนินการของแผนงานและ โครงการภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้โควิด-19 มีการอนุมัติวงเงินแล้วทั้งสิ้น 833,475 ล้านบาท โดยยังมีวงเงินคงเหลืออีก 166,525 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณจากงบกลาง ในส่วนของเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น ภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 99,000 ล้านบาท ซึ่งยังมีวงเงินคงเหลือ 98,213 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงิน 40,325.6 ล้านบาท ซึ่งยังมีวงเงินคงเหลือ 37,108 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2565 รัฐบาลได้มีการตั้งวงเงิน
งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อฉุกเฉินและจำเป็น จำนวน 89,000 ล้านบาท สามารถนำมาใช้เพื่อการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบได้ และ มีการกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีสำหรับการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์แผนแม่บทเฉพาะกิจ อาทิ การเสริมสร้าง
ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ (Local Economy) การปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ (Enabling Factors) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามภารกิจของ
ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งสามารถนำมาดำเนินโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการฟื้นฟูและให้การช่วยเหลือเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด–19 ได้เช่นกัน