

- เผยหากจะกู้เพิ่ม ต้องมีแผนโครงการใช้เงินที่ชัดเจน เชื่อจากนี้จะเน้นที่การเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ
- คาดปีหน้าเชื่อว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะจะลดลง จากเดิมมี่คาดไว้ที่ 60.43% เผยมูลปัจจุบันอยู่ที่ 10.37 ล้านล้านบาท
วันนี้ (24 พ.ย.65) นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยภายหลังแถลงข่าว การเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม วงเงินรวม 60,000 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ทาง สบน. ได้เตรียมหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อทบทวนแผนบริหารหนี้สาธารณะใหม่ เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจของไทย มีอัตรการขยายตัวเกินที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงมีการกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 120,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) จะลดลงด้วย โดย ณ สิ้นเดือนก.ย.65 หนี้สาธารณะอยู่ที่ 60.41% ลดลงจากการคาดการณ์ไว้ที่ 60.56% โดยในส่วนปีหน้าก็เชื่อว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะจะลดลง จากเดิมคาดไว้ที่ 60.43%
ทั้งนี้ ในด้านยอดหนี้รวมขณะนี้อยู่ที่ 10.37 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรัฐบาลกู้โดยตรง 8.49 ล้านล้านบาท รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายของกองทุนฟื้นฟูระบบสถาบันการเงิน (เอฟไอดีเอฟ) 672,613 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจ 955,633 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจในภาคการเงิน รัฐบาลค้ำประกัน 248,108 ล้านบาท และหน่วยงานของรัฐ 6,522 ล้านบาท โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกิน 70%
“หากพิจารณาจากมูลหนี้สาธารณะทั้งหมดแล้ว รัฐบาลยังมีช่องที่จะสามารถกู้เงินได้อีก 1.7 ล้านล้านบาท แต่การกู้นั้นต้องมีแผนการใช้เงินที่ชัดเจน อาทิ กู้เพื่อการลงทุน และปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศมีอัตรการขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่มีแผนการลงทุนที่ชัดเจนก็ไม่ควรกู้ และหากต้องกู้ ก็ต้องออกเป็นพระราชกำหนดออกมาให้ชัดเจน”
สำหรับในปีงบประมาณ 2566 มีแผนออกพันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 130,000 ล้านบาท โดยนำมาใช้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยงวดแรกจะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม วงเงินรวม 60,000 ล้านบาทในเดือน ธ.ค.65 นี้ ขายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง วอเล็ต สบม. และ 4 ธนาคาร ได้แก่ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ กรุงเทพฯกสิกรไทย ส่วนที่เหลือ 70,000 ล้านบาท จะเปิดจำหน่ายในช่วงกลางปี 2566