สทบ.คาดสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน 1.5 ล้านราย มูลหนี้ 75,000 ล้านบาทเข้าโครงการพักหนี้



  • ตีฆ้องให้จัดประชาคมเพื่อสมัครใจพักหนี้ได้ทันที
  • ให้โครงการเสริมเศรษฐกิจฐานรากหมู่บ้านละ 200,000 บาท
  • รัฐพร้อมกดปุ่มส่งเงิน 14,491 ล้านบาท ปลายเดือนม.ค.

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขอให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ จัดการประชุมประชาคมเพื่อตกลงกันใน 2 เรื่องได้ทันที คือ 1.กองทุนหมู่บ้านแต่ละแห่ง จะสมัครใจเข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้หรือไม่ ตามที่รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีไปวันที่26 พ.ย.2562 และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง(สทบ.)ออกระเบียบข้อบังคับไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2562 โดยจะพักชำระเฉพาะเงินต้นให้ในเวลาไม่เกิน 1 ปี แต่ยังต้องส่งดอกเบี้ยตามปกติ เพื่อให้กองทุนหมู่บ้านฯมีสภาพคล่องอยู่ได้

“ผู้ร่วมโครงการพักหนี้ต้องเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองในกองทุนหมู่บ้านฯที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งสมาชิกต้องมีประวัติการชำระหนี้ดี แต่เปิดช่องให้สมาชิกที่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้เข้าร่วมโครงการได้ หากปรากฏว่ามีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดโดยสุจริต โดยให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯพิจารณาให้เข้าร่วมเป็นรายๆไป และเมื่อเข้าร่วมโครงการแล้ว ต้องจัดทำแผนการออมเงินและแผนการฟื้นฟูศักยภาพการประกอบอาชีพเดิมหรืออาชีพเสริม เพื่อให้มีเงินต้นมาชำระคืนในอนาคตด้วย”

ขณะเดียวกันโครงการที่ 2 ที่ขอให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านจัดทำประชาคมหมู่บ้านไปพร้อมกันที่ ครม.เพิ่งอนุมัติโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบวงเงิน 14,491 ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้กองทุนหมู่บ้านฯ ๆละ 200,000 บาท โดยให้แต่ละกองทุนคิดและเขียนโครงการมาว่าจะนำเงินก้อนนี้ไปทำโครงการอะไรให้เกิดการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ ตามความต้องการของชาวบ้านเอง ซึ่งถ้าทำโครงการที่ก่อให้เกิดการงอกเงย เช่น ที่เคยทำมาแล้ว 3 ปี มีบางหมู่บ้าทำร้านค้าชุมชนมีรายได้เดือนละ 200,000 บาท ก็นำไปปันผลให้กับสมาชิกกองทุนฯ ทำให้สมาชิกคนนั้นที่ขอพักชำระหนี้ไว้มีเงินมาคืนกองทุนฯได้ โดยเงินทั้งกอ่นนี้รัฐฐาบจะกดปุ่มลงไปได้ช่วยปลายม.คงหรือต้นก.พ.นี้ตามความพร้อมของกองทุนหมู่บ้านที่เสนอโครงการเข้ามา

นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ(สทบ.)กล่าวคาดว่า จากจำนวนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั้งสิ้น 13 ล้านคน จะมีเข้าร่วมโครงการพักหนี้ 1.5 ล้านคน มูลหนี้ประมาณ 75,000 ล้านบาท ขณะที่เงินที่แต่ละกองทุนหมู่บ้านจะได้รับ 200,000 บาท จะทำเป็นโครงการใหม่หรือโครงการต่อเนื่องกับโครงการตามแนวทางประชารัฐ ที่ทำมาแล้ว 3 ปี ตั้งแต่ปี 2559-2561 ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฎได้ประเมินผลการดำเนินงานจาก 200,000 โครงการทั่วประเทศ มีกำไรให้กองทุนหมู่บ้านฯ 8,000 ล้านบาท ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากไม่น้อยกว่า 40,000 ล้านบาท