สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สตาร์บัคส์ ร้านกาแฟชื่อดังจากสหรัฐฯ เผยว่าจะเร่งเปิดตัวร้านคอนเซ็ปท์ “Pickup” เพื่อให้บริการคำสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Starbucks เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีแผนขยายบริการสั่งซื้อและรับกาแฟริมถนน, ไดร์ฟทรู, เดินมารับที่เคาน์เตอร์ที่มีปริมาณคนน้อยไม่หนาแน่นรวมทั้งขยายไปในตลาดด้วย ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับการขยายการบริการใหม่ในร้านสตาร์บัคส์เดิม
ตามแผนการเมื่อเมื่อขยายธุรกิจออกไป ในอีก 18 เดือนข้างหน้า ทางสตาร์บัคส์จะทำการปิดร้านกาแฟในสหรัฐฯและแคนาดา 400 สาขา จากปกติไปิดสาขาปีละ 100 สาขาเนื่องจากเป็นสาขาที่หมดสัญญาเช่าหรือเป็นสาขาที่ไม่ทำเงิน พร้อมกับการลดเป้าหมายการขยายสาขาใหม่จากเดิม 600 สาขาเหลือ 300 สาขาในปีนี้
สำหรับแนวคิดในรูปแบบร้านกาแฟ “Pickup” เพื่อตอบสนองการสั่งซื้อที่สะดวกกว่า ไม่ใช่สั่งมาดื่มและพูดคุยกับเพื่อนๆ ทั้งนี้ก่อนเกิดวิกฤตโควิด 19 สตาร์บัคส์ได้ทำการทดสอบร้านดังกล่าว เป็นร้านขนาดเล็กในช่วงเจ็ดเดือนที่ผ่านมา สองแห่งร้านหนึ่งตั้งอยู่ที่ Penn Plaza ในแมนฮัตตัน ที่เมืองนิวยอร์ก และในศาลพาณิชย์ เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา
แต่เดิมสตาร์บัคส์ได้วางแผนที่จะเปิดตัวร้านกาแฟแบบ Pickup ในสหรัฐฯ เพราะเห็นข้อมูลการสั่งซื้อกาแฟ 80% เป็นแบบ “on-the-go” ไม่ได้กินที่ร้าน แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิดขึ้นมาทำให้เร่งดำเนินการ พร้อมการการขยายสาขาไปในเมืองใหญ่ๆ
“เควิน จอห์นสัน” ซีอีโอ สตาร์บัคส์ กล่าวว่า “ร้านกาแฟสตาร์บัคส์เป็นที่กันดีว่าเป็น “สถานที่ที่สาม” นอกจากบ้านและสถานที่ทำงานที่เราจะเชื่อมต่อกันด้วยกาแฟสักหนึ่งแก้ว ในขณะที่เราสำรวจผลกระทบจากวิกฤตโควิด เรากำลังเร่งแผนการเปลี่ยนรูปแบบร้านค้าของเราเพื่อจัดการกับความเป็นจริงของสถานการณ์ปัจจุบันในขณะที่ยังคงให้ประสบการณ์ที่ปลอดภัยคุ้นเคยและสะดวกสบายสำหรับลูกค้าของเรา” เขากล่าวเสริม
สตาร์บัคส์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยอดขายสาขาในเดือนพฤษภาคมโดยระบุว่ายอดขายสาขาเทียบกับสหรัฐปรับลดลง 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนเดือนเมษายน ลดลง 43% โดยคาดว่าในไตรมาสปัจจุบันจะได้รับผลกระทบสูญเสียรายได้ไป 3,000 ล้านดอลลาร์
ในขณะนี้ สตาร์บัคส์ สามารถให้ร้านกาแฟที่มีอยู่ในสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด คือร้อยละ 95 จากทั้งหมด 8,000 แห่ง เปิดทำการ ในระดับการเปิดรับลูกค้าที่ต่างกัน พร้อมคาดหมายตลอดปียอดขายในสหรัฐฯและจีนจะลดลง 10%