

- ตั้งใจพัฒนาพื้นที่ท่าเทียบเรือศุลกากรให้มีความทันสมัย พร้อมรองรับภารกิจต่างๆ
- เผยศุลกากรจะผูกพันงบประมาณ และทำสัญญาเช่าอาคารกับ DAD เป็นระยะเวลา 15 ปี
- ด้าน ธพส. ชี้แนวทางการปรับปรุงที่นำเสนอให้แก่กรมศุลกากร จะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการอย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มี.ค.66) นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายจำเริญ โพธิยอดอธิบดีกรมธนารักษ์ นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือศุลกากรเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรีโดยมี นายสุรเดช ตรงศิริวิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กรมศุลกากร นางบุษกร ปราบณศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์ และนายวิวัฒน์ อัศวปยุกต์กุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมภาสกรวงศ์ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากร มีความตั้งใจ ที่จะพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ท่าเทียบเรือศุลกากร ตำบลท่าเทววงษ์ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี บนเนื้อที่ประมาณ 8-1-45.1 ไร่ ให้มีความทันสมัย พร้อมรองรับภารกิจต่างๆ ของกรมศุลกากร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก อาคารสำนักงาน ศูนย์ฝึกอบรมและบ้านพัก มีการชำรุดทรุดโทรมตามอายุการใช้งาน จึงขอความร่วมมือไปยัง กรมธนารักษ์ และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์จำกัด (ธพส.) หรือ DAD เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนา พร้อมเสนอแนวทางการพัฒนาปรับปรุง และดำเนินการก่อสร้างบ้านพัก อาคารและศูนย์ฝึกอบรมให้กรมศุลกากรใช้ประโยชน์อาคารเพื่อทดแทนอาคารเดิม โดยกรมศุลกากรจะผูกพันงบประมาณ และทำสัญญาเช่าอาคารกับ DAD เป็นระยะเวลา 15 ปี

ด้านนายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการปกครอง ดูแลและบำรุงรักษาพื้นที่โครงการ จะดำเนินการอนุญาตให้ใช้พื้นที่โครงการ เพื่อปรับปรุงพื้นที่และก่อสร้างอาคารตามระเบียบและกฎหมายที่ราชพัสดุ

นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) หรือ DAD กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ในฐานะผู้พัฒนาที่ดินพื้นที่โครงการ ได้ดำเนินการศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่ท่าเทียบเรือศุลกากรอย่างละเอียด และเสนอแนวทางการปรับปรุงให้แก่กรมศุลกากร ซึ่งทางบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าแนวทางการพัฒนาที่ทางบริษัทฯ นำเสนอจะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการอย่างยั่งยืนต่อไป


