“ศรีลังกา” ระทึก! เจอเชื้อสายพันธุ์ “เดลตา” กลายพันธุ์ขึ้นใหม่ 4 ตัว



วันนี้ (24 ส.ค.64) ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของศรีลังกา เปิดเผยว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา ซึ่งแพร่ระบาดทั่วประเทศศรีลังกาในขณะนี้ ได้เกิดการกลายพันธุ์ใหม่ 4 ตัว เนื่องจากอัตราการติดเชื้อที่สูง แต่ยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีน

ศาสตราจารย์นีลิกา มาลาวิก หัวหน้าแผนกภูมิคุ้มกันวิทยา และเวชศาสตร์โมเลกุลของมหาวิทยาลัยศรีชยวรรธนปุระระบุว่า มีการพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตากลายพันธุ์ใหม่ทั้ง 4 ตัว จากการลำดับพันธุกรรม แต่ยังไม่มีเหตุให้ตื่นตระหนกจนกว่าจะทราบถึงผลกระทบของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์เหล่านี้

“เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา กลายพันธุ์ใหม่ชนิด A-222V ถูกพบในหลายประเทศ ส่วนชนิด A-1078S พบในศรีลังกาและมาเลเซีย ขณะที่อีก 2 ชนิด ได้แก่ A-701S และ R-24C พบในศรีลังกาเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส และไม่ได้หมายความว่าเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่” ศาสตราจารย์มาลาวิก กล่าว

ศาสตราจารย์มาลาวิก กล่าวต่อว่า ผู้เชี่ยวชาญยังพบการกลายพันธุ์หลายชนิดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์อัลฟา รวมถึงการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่พบในศรีลังกาที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ในประเทศ ซึ่งไม่มีเรื่องให้ต้องกังวล

ทั้งนี้แม้เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดในประเทศศรีลังกานั้น อาจจะเกิดการกลายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะบางอย่าง แต่ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องตื่นตระหนก

“การกลายพันธุ์เหล่านี้ไม่มีแนวโน้มสูงว่าจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมขอความร่วมมือประชาชนเข้ารับวัคซีน” ศาสตราจารย์มาลาวิก กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศศรีลังกากำลังเผชิญกับยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่ามีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยทางการศรีลังกาได้ประกาศบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา และมีผลสิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค.64 

ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่ง ต่างก็มีการรองรับผู้ป่วยถึงขีดจำกัด เนื่องจากมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ประเทศศรีลังกามียอดผู้ป่วยเสียชีวิตมากกว่า 7,000 ราย และยอดผู้ป่วยอยู่ที่ กว่า 390,000 ราย

ขอบคุณข้อมูล : xinhuathai