ศบค. เสนอกทม.ใช้ “โมเดลสมุทรสาคร”ตั้ง “แคมป์ Quarantine”คุมต่างด้าวติดโควิด



  • หลังมีคนต่างด้าวถูกกฎหมายอาศัยอยู่กว่า 1.3 ล้านคน
  • ชี้กลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นผู้ที่ไม่อยู่นิ่ง-เคลื่อนย้ายบ่อย

วันที่ 20 พ.ค.2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยหลังแถลงตัวเลขสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันว่า เรื่องสำคัญวันนี้ คณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขของศบค. ได้เสนอแนะการแก้ปัญหาของชาวต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยมีการประมาณการว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีคนต่างด้าวอาศัยอยู่ประมาณ 1,318,641 คน เฉพาะที่ถูกต้องตามกฎหมาย กระจายอยู่ใน 6 จังหวัด แยกเป็น กทม.มีประมาณ 580,000 คน สมุทรสาคร 230,000 คน สมุทรปราการ 160,000 คน ปทุมธานี 130,000 คน นนทบุรี 99,000 คน และนครปฐม 93,000 คน นอกจากนี้ยังมีที่ไม่ถูกกฎหมายอีกจำนวนหนึ่ง มีการประมาณกันทั่วทั้งประเทศน่าจะมีหลักล้านคน

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าววว่า ประเด็นอยู่ตรงที่หากไม่จัดการอะไรขึ้นมา คนเหล่านี้มีชุดพฤติกรรมที่จะเกิดประเด็นปัญหา 2-3 ข้อ คือ 1.กลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นผู้ที่ไม่อยู่นิ่ง จะหลบหนีหรือเคลื่อนย้ายตัวเองบ่อยๆ เพราะเป็นแรงงานไม่ถูกกฎหมาย 2.กลุ่มคนเหล่านี้จะไปอยู่กับคนที่ถูกกฎหมาย โดยพยายามที่จะเกาะกลุ่มรวมกัน ไปทำงานและย้ายจุดไปเรื่อยๆ โดยมีจุดเชื่อมต่อคือคนที่ถูกกฎหมาย และ 3.มีที่พักที่แออัด ทั้งกินนอน ดื่มเล่นกัน

ดังนั้น 3 ปัจจัยนี้จะนำมาสู่การควบคุมโรคได้ยาก สิ่งที่ทางคณะที่ปรึกษาศบค.เสนอคือจะต้องให้มีศูนย์คัดแยกผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งเราได้เรียนรู้มาจากทางจ.สมุทรสาครแล้ว ซึ่งเขาควรจะได้พื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งอาจะใช้ มีคำพูด เช่นอาจเรียกว่าเป็น แคมป์ QUARANTINE  หรือเรียกว่าแคมป์ ISOLATION

“ตัวอย่างที่พูดคุยกันวันนี้คือโรงพยาบาลสนามซึ่งเกิดขึ้นที่จ.ปทุมธานี คือเอาตลาดเก่าที่ไม่ใช้แล้วมาปรับปรุง แล้วให้คนที่เป็นต่างด้าวมาอยู่ด้วยกันตรงนี้ แล้วชุมชนก็เป็นผู้ดูแลร่วมกัน มีรั้วรอบมิดชิด มีการส่งข้าวส่งน้ำ เพราะคนพวกนี้ทำงานอยู่ตรงนั้น และก็รู้จักกันในชุมชนทั้งสิ้น”

ทั้งนี้โมเดลอย่างนี้ กทม.ควรจะต้องรีบทำ เพราะวันหนึ่งที่มีผู้ป่วยเพิ่มกันมา 300-400 คน จากการตรวจเชิงรุก มีที่นอนให้เขา แยกออกมาจากชุมชนให้ได้  และ 2. ในเชิงของทางกฎหมาย ให้มีมาตรการรองรับ ขยายนิรโทษกรรม ให้เขาขึ้นทะเบียนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้เขาได้เข้าสู่ระบบการจ้างงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย