

วันนี้ (14 ต.ค.64) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากเดิม 29 จังหวัด เหลือ 23 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตากนครปฐม นครนายก นครศรีธรรมราช นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา ระยองราชบุรี สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี
พื้นที่ควบคุมสูงสุด จากเดิม 37 จังหวัด เหลือ 30 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพรเชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครราชสีมา นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรีมหาสารคาม ระนอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานีอุบลราชธานี เพชรบูรณ์

พื้นที่ควบคุมจากเดิม มี 11 จังหวัด เพิ่มเป็น 24 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ กำแพงเพชร นครพนม น่าน บึงกาฬบุรีรัมย์ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สุโขทัยหนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อำนาจเจริญ

นอกจากนี้ยังเห็นชอบปรับมาตรการสำหรับกิจการ/กิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด อาทิ ขยายเวลาเคอร์ฟิวจากเดิมเวลา 22.00 น.-04.00 น.เป็น 23.00 น.-03.00 น.เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.64 เป็นต้นไป ส่วนร้านสะดวกซื้อตลาดสด หรือตลาดนัด ขยายเปิดได้ถึง 22.00 น. ขณะที่กิจการอื่นๆ เช่น โรงภาพยนต์ ร้านอาหาร โรงละคร สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดดำเนินการได้ถึง 22.00 น. ส่วนการขนส่งสาธารณทุกประเภท เพิ่มความจุมากกว่า 75% เป็นต้น
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเห็นชอบผ่อนคลายมาตรการสำหรับกิจการ/กิจกรรมสำหรับทุกพื้นที่ อาทิ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ กิจกรรมรวมกลุ่ม ตู้เกม ร้านเกม อีกด้วย ดังนี้


