ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 27 ต.ค. 2563 ที่รัฐสภา นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยภายหลังกลับมาจาก โรงพยายาลวชิรพยาบาล ว่า ต้องขออภัยที่ทำให้ตกอกตกใจ โดยแผลที่ตนเองกรีดแขนเย็บไป 9 เข็ม โดยตลอดระยะเวลาที่ตนเล่นการเมืองมา 34-35 ปี ไม่มีครั้งไหนกดดัน ตน โดยเห็นเด็กชุมนุมในวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งดูแล้วไม่เป็นที่สนใจของนายกรัฐมนตรี ยังคิดเหมือนเดิม อยากให้อันนี้เป็นเลือดสุดท้ายของคนไทย ตนเคยผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลาคมมาแล้ว ตนก็ไม่อยากให้คนไทยเสียเลือดเนื้ออีก วงล้อประวัติศาสตร์ดูแล้วจะไม่มีทางออก เวลาในสภาน้อยไป น่าจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย เพราะต้องการสื่อสารกับท่านโดยตรง
“อยากเตือนท่านนายกฯ ว่าอย่าไปฟังเสียงอวยอย่างเดียว ในสภาเหมือนกะลาครอบ ควรจะเรียกร้องให้ท่านสนใจและหลังจากนี้ท่านควรไปย้อนดู และไม่อยากให้ตัดสินใจผิดๆ ตอนนี้ท่านอำนาจล้นฟ้าก็อยากให้ลดลงมามองเด็กๆเปิดโอกาสให้นั่งคุยกันอย่างเปิดอก การประชุมรัฐสภา มันไม่ใช่คู่ขัดแย้งที่ประชาชนจะเชื่อใจได้ ต้องให้เด็กๆ มาเล่าให้ฟัง ตนห่วงข้อเรียกร้องสุดท้ายก็ต้องลดทิฐิมาคุยกัน รวมทั้งการแก้รัฐธรรม และการลาออกทุกอย่างจะแก้ได้ ถ้าตนตัวคนเดียวพร้อมฆ่าตัวตาย แต่มันไม่เกิดประโยชน์ อยากเรียกร้องให้นายกฯ ลงมา ตอนนี้ประชาชนข้างนอกเลยไปกว่านั้น” นายวิสาร กล่าว
นายวิสาร กล่าวต่อว่า ตนขออภัยท่านประธานสภา และรัฐสภา ตั้งแต่เป็น ส.ส. มา 9 สมัยไม่เคยทำผิด แต่นายกรัฐมนตรีต้องลงมาแก้ปัญหาและใช้โอกาสตรงนี้ และขอย้ำว่า ท่านจะเป็นวีรบุรุษหรือทรราชก็อยู่ตรงนี้ ขอบคุณทุกคนที่ห่วงใย และขออภัยที่ทำให้วุ่นวายไม่มีความเป็นอย่างอื่น โดยยืมมีดปลอกผลไม้ของแม่บ้าน ไม่ได้พกมาเอง และไม่ได้บอกคนในครอบครัว เป็นการประท้วง และยอมเจ็บตัวคนเดียว
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาที่จะลงมาเยี่ยม และพบกับนายวิสาร ที่ชั้น 1 ของอาคารสุริยันพอดี กล่าวว่า มันเกิดขึ้นแล้วก็เป็นห่วง โดยตนได้ให้เจ้าหน้าที่รายงาน ว่าตนกำลังจะไปเยี่ยม
ขณะที่นายวิสาร ก็ได้เดินเข้ามาไหว้ขอโทษประธานรัฐสภา จากนั้นนายชวน กล่าวว่า ต้องอดทน ทั้งนี้ถือว่าไม่ได้เอาอาวุธเข้าไปในรัฐสภา เพราะมีดปลอกผลไม้อยู่ในสภาอยู่แล้ว ยอมรับว่าตนไม่เห็นด้วย ก็ห้ามแล้ว ตอนนี้ก็เข้าใจ และบอกว่าการเมืองก็ต้องอดทนในการแก้ไข กว่าจะไปสู่เป้าหมายความสำเร็จไม่มีอะไรง่าย นวมถึงกลัวว่าแผลของนายวิสารจะเป็นบาดทะยัก
