รัฐบาลอังกฤษ ประกาศแผนฉีดวัคซีนบูสเตอร์ สัปดาห์หน้า พร้อมฉีดไฟเซอร์ให้เด็กวัย12-15ปี



  • กระตุ้นโดสที่ 3 แก่บุคลากรด้านสาธารณสุขและสังคมสงเคราะห์ด่านหน้า
  • ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่สัปดาห์หน้า
  • เริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็มให้กับเด็กอายุ 12-15 ปีทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานต่างประเทศ เอเอฟพี ได้รายงานเมื่อวันอังคารที่ 13 กันยายน อ้างคำกล่าวของซาจิด จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ที่เปิดเผยต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันเดียวกันว่าเขาอนุมัติคำแนะนำของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (เจซีวีไอ) ให้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนบูสเตอร์

นายเวย เชิน ลิม ประธานเจซีวีไอ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า โครงการนี้ได้รับการแนะนำเพื่อให้การคุ้มครองเพิ่มเติมเมื่อฤดูหนาวกำลังจะมาถึง ประชากรวัยผู้ใหญ่ของอังกฤษราวร้อยละ 81 ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว แต่อัตราการติดเชื้อยังคงสูง ฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามาเพิ่มความกังวลว่าสภาพอากาศที่เย็นลงและการรวมกลุ่มทางสังคมมากขึ้นภายในอาคารจะทำให้โควิดและโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ เช่นหวัด แพร่กระจายอีก

ทั้งนี้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนโควิดโดยรวมลดลงเพียงเล็กน้อยหลังโดสที่ 2 จากมากกว่า 90% เหลือเกือบ 90% แต่ในกลุ่มผู้ที่อายุเกิน 50 ปีนั้นตัวเลขลดลงมากที่สุด ทำให้คนวัยนี้และกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ควรได้รับวัคซีนบูสเตอร์ วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้แน่นใจว่าระดับของการปกป้องจะยังสูงอยู่ระหว่างหน้าหนาว

 ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษแถลงว่า โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับเด็กกลุ่มนี้จะให้บริการฉีดที่โรงเรียนนักเรียนที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนจะต้องได้รับการยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง โดยมีเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้นักเรียนในอังกฤษราว 3 ล้านคน

ส่วนบีบีซีรายงานว่า คณะหัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์สหราชอาณาจักรแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ 1 เข็ม ให้กับเด็กอายุ 12-15 ปี โดยจะเริ่มฉีดให้กับเด็กกลุ่มนี้ในอังกฤษตั้งแต่สัปดาห์หน้า โดยจะฉีดวัคซีนให้กับเด็กกลุ่มนี้ในสกอตแลนด์, เวลส์และไอร์แลนด์เหนือด้วย

คณะหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ของอังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์และไอร์แลนด์เหนือแถลงก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ว่า ควรฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มเด็กอายุ 12-15 ปี โดยพิจารณาปัจจัยด้านการศึกษาและสุขภาพจิตของเด็ก การฉีดวัคซีนให้เด็กกลุ่มอายุนี้จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงเรียน เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดได้ง่ายมากในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก โดยเฉพาะกับสายพันธุ์เดลตา.