

- “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” นำทีมประกาศพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดครั้งแรก “ประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องจาก 21 เขตเศรษฐกิจเอเปค”
- 14-20 ส.ค.65 ที่กรุงเทพฯ โชว์จัดในในแบบ “โลว์ คาร์บอน”
- ดันแนวคิด Regenerative Tourism : การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน ปลุกท่องเที่ยวเปลี่ยนสู่โลกยุคใหม่
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมเป็นเจ้าภาพในนามประเทศ จัดเป็นครั้งแรกในการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องจาก 21 เขตเศรษฐกิจเอเปครวมกว่า 300 คน ระหว่าง 14-20 สิงหาคม 2565 ที่กรุงเทพมหานคร นำเสนอการจัดงานในรูปแบบ “Low Carbon” ภายใต้แนวคิด Regenerative Tourism : การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืนซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยวของ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปค

สำหรับ Regenerative Tourism : การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน เป็นแนวคิดเน้นการจัดการการท่องเที่ยวแบบองค์รวม โดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับแหล่งท่องเที่ยวในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และวิถีชุมชน ไม่เฉพาะการฟื้นฟูทรัพยากรที่เสื่อมโทรมเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เช่น การปรับสมดุลจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับแหล่งท่องเที่ยว ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการท่องเที่ยวมากกว่าปริมาณนักท่องเที่ยว สนับสนุนให้คนท้องถิ่นมีส่วนร่วมและได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม รู้จักรักและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

โดยนำแนวคิด BCG -Bio-Circular-Green Economy ประกอบเข้าด้วยกันครบทุกมิติทั้ง ภูมิปัญญาท้องถิ่นนวัตกรรม ดิจิทัล เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ มาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ เพื่อให้การท่องเที่ยวนำไปสู่ความยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกภาคส่วน พร้อมทั้งหวังผลจากการประชุมครั้งนี้ ประเทศไทยจะผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมด้วยข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้มีอนาคตที่ดีกว่าเดิม รวมทั้งไทยจะได้ประโยชน์จากการเสนอแนวคิด คือ
เรื่องที่ 1 เป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่ต่อยอดมาจากแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(Sustainable Tourism) เพื่อจะช่วยฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ดูแลรักษาทรัพยากรในแหล่งท่องเที่ยวของไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน และให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม เกิดการกระจายรายได้สู่คนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง

เรื่องที่ 2 สร้างประโยชน์ร่วมต่อสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคในการฟื้นการท่องเที่ยวจากวิกฤตการณ์ โควิด-19 ให้คืนกลับมา และบรรลุเป้าหมายของการท่องเที่ยวที่นำทรัพยากรมาใช้แล้วช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นกว่าเดิม สังคมวัฒนธรรม มีความคิดสร้างสรรค์ มีคุณค่ามากขึ้น เศรษฐกิจที่เน้นให้คนท้องถิ่นมีอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสอดคล้องเชื่อมโยงกับ หัวข้อหลักของการเป็นเจ้าภาพเอเปคปีนี้ของไทย คือ “Open. Connect. Balance.” หรือ“เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล”
รมว.พิพัฒน์กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรมคู่ขนานการประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปคและคณะทำงานด้วย คือการจัดสัมมนาวิชาการ ภายใต้หัวข้อ “Co–Creating Regenerative Tourism” กิจกรรมทัศนศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวตลาดน้อย ย่านเจริญกรุง และ สามพรานโมเดล จังหวัดนครปฐม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวชุมชน และสามารถเชื่อมโยงไปสู่แนวคิดหลักของการประชุมครั้งนี้
จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมด้วยไมตรีจิตอันอบอุ่น เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนจากนานาประเทศ และขอให้คนไทยร่วมกันสนับสนุนแนวคิดการท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ในการประกาศความพร้อมของประเทศไทยที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยวปี 2565 มีผู้เข้าร่วมด้วยคือ นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้บริหารครบทีม เพื่อรวมพลังกันนำประเทศไทยทำภารกิจ “Regenerative Tourism : การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน” เพื่อเป็นแนวทางฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในอนาคตต่อไป
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen