ยูเอสทีอาร์จวกยับดับบลิวทีโอตัดสินสหรัฐฯทำผิดกฎ



.หลังปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนกว่า200,000ล้านเหรียญฯ

.เหตุขึ้นภาษีกับจีนประเทศเดียวและเก็บสูงกว่าที่ผูกพันไว้

.สหรัฐฯเตรียมยื่นอุทธรณ์หวังให้พ้นจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญา

นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา วิพากษ์วิจารณ์กรณีที่องค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) ตัดสินว่า สหรัฐฯละเมิดกฎระเบียบของดับบลิวทีโอ จากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ากว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กรณีที่ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และเทคโนโลยีของสหรัฐฯจนสร้างเสียหายให้กับสหรัฐฯ

“การรายงานของคณะผู้พิจารณาของดับบลิวทีโอ เป็นการยืนยันสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พูดมาตลอด 4 ปีว่า ดับบลิวทีโอไม่สามารถยับยั้งจีน จากพฤติกรรมที่เป็นอันตรายทางเทคโนโลยี แม้ว่าคณะผู้พิจารณา ไม่ได้โต้แย้งจากหลักฐานจำนวนมากที่สหรัฐฯส่งมาให้พิจารณาเกี่ยวกับการที่จีนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐฯ”

นายไลท์ไฮเซอร์ กล่าวต่อว่า คำตัดสินดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ดับบลิวทีโอไม่มีมาตรการเยียวยาวสำหรับพฤติกรรมอันมิชอบของจีน สหรัฐฯได้รับอนุญาตให้ปกป้องตนเองจากพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ จะไม่ปล่อยให้จีนใช้ดับบลิวทีโอ เพื่อเอารัดเอาเปรียบแรงงาน นักธุรกิจ เกษตรกร และเจ้าของฟาร์มชาวอเมริกัน อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำให้รู้ว่า การตัดสินดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อข้อตกลงทางการค้าระยะที่ 1 (เฟส 1) ระหว่าง 2 ประเทศ รวมถึงข้อตกลงใหม่ที่จีนยืนยันจะไม่ขโมยเทคโนโลยีของชาวอเมริกันอีก 

สำหรับคำตัดสินดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนได้ฟ้องร้องต่อคณะกรรมการระงับข้อพิพาทของดับบลิวทีโอเมื่อเดือนเม.ย.61 ว่า สหรัฐฯใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้าจีน มูลค่ากว่า 200,000 ล้านเหรียญฯ ผิดกฎดับบลิวทีโอ จากนั้นดับบลิวทีโอได้ตั้งคณะผู้พิจารณา เพื่อพิจารณาตามการฟ้องร้อง และมีคำตัดสินเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านว่า การปรับขึ้นภาษีจากสินค้าที่นำเข้าจากจีน ถือว่าผิดกฎดับบลิวทีโอ เพราะเป็นการปรับขึ้นเฉพาะกับสินค้าที่นำเข้าจากจีนเท่านั้น และจัดเก็บมากกว่าอัตราสูงสุดที่สหรัฐฯผูกพันไว้ในดับบลิวทีโอ

อย่างไรก็ตาม การตัดสินดังกล่าว ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการระงับข้อพิพาทของดับบลิวทีโอ ที่อาจใช้เวลาหลายปี อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว แต่ขณะนี้ คณะกรรมการอุทธรณ์ ในคณะกรรมการระงับข้อพิพาทของดับบิลวทีโอ เหลือเพียง 1 คน จาก 7 คน เนื่องจากหมดวาระ และยังไม่มีการสรรหาใหม่ อาจทำให้การพิจารณาคดีล่าช้า ดังนั้น คณะผู้พิจารณาจึงแนะนำให้ สหรัฐฯปรับมาตรการทางภาษีที่ใช้กับจีนให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของดับบลิวทีโอ และสนับสนุนให้ทั้ง 2 ประเทศร่วมกันแก้ปัญหามากกว่าใช้กระบวนการระงับข้อพิพาทของดับบลิวทีโอ