

- “ยูนิลิเวอร์” สบช่องท่องเที่ยวฟื้นหลังโควิด ลั่นนำ “Unilever Professional”
- จัดทัพสินค้าหมวด “ทำความสะอาด+ดูแลสุขอนามัย”
- ร่วมมหกรรมขายและจับคู่ธุรกิจ Food & Hospitality Thailand 2022
- รุกตลาดใหญ่ โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยวและบริการ 21-24 ก.ย.65 ที่ศูนย์สิริกิติ์
นายธีรภัทร ประภาพานิชย์ ผู้จัดการทั่วไป Unilever Professional (ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์) เปิดเผยว่าธุรกิจภายใต้แบรนด์ ยูนิลิเวอร์-Unilever ซึ่งผู้ผลิตเเละจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลก เตรียมนำทัพผลิตภัณฑ์หมวด ทำความสะอาดและดูแลสุขอนามัย รุกเจาะตลาดในกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ด้วยการชูจุดแข็งประสิทธิภาพทางด้านราคาที่คุ้มค่าร่วมงาน Food & Hospitality Thailand 2022 ทั้งเพื่อขายผลิตภัณฑ์และเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการโดยตรง
วางแผนเข้าร่วมงาน Food & Hospitality Thailand 2022 ระหว่างวันที่ 21-24 กันยายน 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อลุยตลาดเชิงรุกนำทัพผลิตภัณฑ์กับการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์หรือ brand awareness แก่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโดยตรง รวมทั้งงานนี้มีกลุ่มเป้าหมายครบทั้ง ธุรกิจอาหาร และผู้ประกอบการท่องเที่ยวและบริการ กลุ่มจัดแสดงสินค้าพรีเมียม นวัตกรรมและเทคโนโลยี กิจกรรมการแข่งขัน การประชุมสัมมนา และworkshop ที่น่าสนใจ

ภายในบู๊ธจัดแสดงงานของ Unilever Professional นอกจากจะจัดการจัดแสดงผลิตภัณฑ์แล้ว ยังเปิดให้ผู้สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายได้เข้ามาพูดถึงโอกาสทางธุรกิจควบคู่กันไปด้วย
นายนายธีรภัทร กล่าวว่า จากประเมินแนวโน้มและโอกาสของตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มทำความสะอาดและดูแลสุขอนามัยมีทิศทางเติบโตตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ ด้วยสถิตินักเดินทาง 7 เดือนแรกสูงถึง3 ล้านคน ผนวกกับตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่หมดไป จึงทำให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญอันดับแรกกับเรื่องความสะอาดและสุขอนามัย
ดังนั้นทาง Unilever Professional เตรียมผลิตภัณฑ์ไฮไลต์เด่น ๆ หมวดทำความสะอาดและดูแลสุขอนามัย เจาะตลาดกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจบริการ โรงพยาบาล โรงซักผ้าอุตสาหกรรม หน่วยงานขนาดใหญ่และอื่น ๆ โดยจะชูจุดแข็ง ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในราคาที่คุ้มค่า หรือ Superior, Clean, and Affordable พร้อมคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Clean Future) ตามมาตรฐานการผลิตของ Unilever แต่ละผลิตภัณฑ์ออกแบบให้เหมาะสมกับกลุ่มธุรกิจของลูกค้า ทั้งสูตร วิธีใช้งาน ขนาดบรรจุภัณฑ์ เพื่อใช้งานได้ง่ายสะดวก รวดเร็ว
ทั้งนี้ Unilever Professional ประสบความสำเร็จจากหลัก 3 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย
ปัจจัยที่ 1 การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ready-to-use ที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าคู่แข่งและตรงกับความต้องการของลูกค้าภายใต้แบรนด์ชั้นนำของยูนิลีเวอร์
ปัจจัยที่ 2 กลยุทธ์ขยายช่องทางการขาย B2B ได้แก่ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Unilever Professional, general trade, digital commerce และ cash and carry ซึ่งช่องทางการขายเหล่านี้เน้นขายให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ HORECA, food service, ธุรกิจทำความสะอาดอาคารสถานที่, โรงพยาบาล, โรงซักผ้าอุตสาหกรรม, โรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร, ปศุสัตว์, โรงเชือดสัตว์, และการทำความสะอาดส่วน operation ของห้างร้านต่าง ๆ

ปัจจัยที่ 3 ความเป็นผู้นำนวัตกรรมและการตลาด หรือ Lead innovation & marketing มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ครอบคลุมการใช้งานของผู้ประกอบการที่ใช้สินค้า ready-to-use ให้บริการตลาดแบบครบวงจร
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen