ม็อบนิสิตนักศึกษา ลั่นดีใจเหมือนแสงสว่าง หลังศาลแพ่งรับฟ้องสำนวนคดีเพิกถอนคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินฯ นัดฟังคำสั่งบ่ายวันนี้



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ต.ค.2563) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 410 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งกรณีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในนามกลุ่ม “คณะจุฬาฯ” และ “TPC Awaken” นำโดย น.ส.ศุกรียา วรรณายุวัฒน์ กับพวกรวม 6 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานละเมิด ขอให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เพิกถอนประกาศและคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ห้ามมิให้นำมาตรการคำสั่งและการกระทำมาใช้กับโจทก์และผู้ชุมนุม พร้อมขอคุ้มครองชั่วคราวและคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินด้วย

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เป็นคำสั่งทางปกครองของนายกรัฐมนตรี แต่มาตรา 16 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามฟ้องศาลปกครอง โดยให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมซึ่งมีอำนาจพิพากษาคดีทั้งปวง ไม่อยู่ในอำนาจของศาลอื่นตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ศาลแพ่งซึ่งเป็นศาลยุติธรรม จึงมีอำนาจรับไว้พิจารณา มีคำสั่งรับฟ้องและรับไต่สวนฉุกเฉินในวันนี้ (22 ต.ค.) เวลา 13.30 น.

ทั้งนี้ภายหลังศาลรับฟ้องแล้ว กลุ่มนิสิตนักศึกษาในฐานะโจทก์ เปิดเผยว่า ดีใจเหมือนเห็นแสงสว่าง ยังมีความยุติธรรมให้เห็น ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีบอกถอยคนละก้าวนั้น ความจริงเขานำเราไปก้าวหนึ่ง ต้องยกเลิกตรงนี้ และเราจะสู้ต่อไปให้ถึงที่สุด เรื่องอดีตไม่สามารถแก้ไขได้ คาดหวังว่าศาลจะเป็นที่พึ่งในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ

ด้าน นายปรีดา นาคผิว ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะทีมทนายความโจทก์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เตรียมพยาน​ 2​ ปาก ที่จะให้การในชั้นไต่สวนฉุกเฉินช่วงบ่าย​ ประกอบด้วย​ นักศึกษา​ น.ส.ศุกรียา​ วรรณายุวัฒน์​ นักศึกษาโจทก์ที่​ 1​ และ​ ดร.พัชร์​ นิยมศิลป์​ อาจารย์คณะนิติศาสตร์​ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ ซึ่งคาดว่าทั้ง​ 2 ปาก​ น่าจะครอบคลุม​ เชื่อว่าศาลจะรับฟังและมีคำสั่งจะคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ในวันนี้หรือพรุ่งนี้