พาณิชย์เป็นปลื้ม!ลำไยไทยขายดีหลายประเทศรุมซื้อ



  • ทำเกษตรกรขายได้ราคาดี-ไม่ถูกกดราคารับซื้อ
  • เดินหน้าจัดงานจับคู่ซื้อขายทางออนไลน์อีก
  • คาดโกยรายได้มหาศาลจากที่ขายได้แล้วกว่า5พันล้าน

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือนส.ค.นี้ กรมจะจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ทางธุรกิจทางออนไลน์ ในสินค้าลำไยและผลิตภัณฑ์ ระหว่างผู้ผลิต และผู้ส่งออกของไทย กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากหลายประเทศ โดยเชิญผู้นำเข้าจากเมียนมา มาเลเซีย ญี่ปุ่น และไต้หวัน มาเจรจาซื้อขายกัน ซึ่งตลาดเหล่านี้เป็นตลาดใหม่สำหรับไทย คาดว่า จะเพิ่มโอกาสให้กับการส่งออกลำไยและผลิตภัณฑ์ของไทยได้มากขึ้น จากก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือนก.ค.63 กรมได้จัดกิจกรรมดังกล่าวแล้วกับผู้ซื้อสำคัญจากจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ รวมถึงอินเดีย บังคลาเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และฝรั่งเศส สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้แล้วประมาณ 2,300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการเจรจากับผู้ซื้อเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ดั้งเดิมของไทย คาดขายได้อีกราว 3,000 ล้านบาท 

ด้านนายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์  กล่าวถึงสถานการณ์ลำไยของไทยในขณะนี้ว่า จากเดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์ลำไยในหลายจังหวัดในภาคเหนือ พื้นที่เพาะปลูกลำไยแหล่งใหญ่ของไทย เช่น จ.น่าน ลำพูน เป็นต้น พบว่า ขณะนี้ เกษตรกรสามารถขายผลผลิตลำไยได้ในราคาที่พึงพอใจ และมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งผู้รวบรวม คัดแยก บรรจุและส่งออก (ล้ง) ที่รับซื้อผลผลิตไปส่งออกตลาดจีนรับซื้อในราคาดี เช่น ลำไยสดช่อ เกรด AA กิโลกรัม (กก.) ละ 30-32 บาท เกรด A กก.ละ 26-28 บาท เกรด B กก.ละ 22-24 บาท 

ส่วนส่งออกไปอินโดนีเซีย รับซื้อราคาลดลงเล็กน้อย โดยแบบสดช่อ เกรด AA กก.ละ 24-26 บาท เกรด A กก.ละ 20-23 บาท เกรด B กก.ละ 13-16 บาท ส่งออกไปกัมพูชา แบบสดช่อ เกรด AA กก.ละ 16-17 บาท เกรด A กก.ละ 12-13 บาท และเกรด B กก.ละ 9-10 บาท ขณะที่ลำไยสดรูดร่วง สำหรับทำลำไยอบแห้ง เกรด AA กก.ละ 15-19 บาท เกรด A กก.ละ 6-9 บาท เกรด B กก.ละ 3-5 บาท เกรด C กก.ละ 0.5-1 บาท 

“ขณะนี้เป็นช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยวลำไย ราคาถือว่าดี เกษตรกรพอใจ ไม่มีการกดราคารับซื้อ ซึ่งตรงนี้รมว.พาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์) เป็นห่วงมาก และสั่งการให้ติดตามอย่างใกล้ชิด อย่าให้เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบได้ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดจุดรับซื้อเพิ่มขึ้นมากในหลายพื้นที่ แต่คาดว่า เมื่อผลผลิตออกจำนวนมากๆ พร้อมๆ กัน ราคาอาจอ่อนตัวลงได้ แต่กระทรวงพาณิชย์ มีมาตรการเชิงรุกในการบริหารจัดการผลผลิตลำไยไว้แล้ว คาดว่า ราคาในปีนี้ไม่น่ามีปัญหา”

สำหรับมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์ เตรียมไว้รองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดนั้น มีทั้งเร่งผลักดันการส่งออกผ่านทางออฟไลน์ และออนไลน์ ระบายผลผลิตในประเทศ โดยเชื่อมโยงแหล่งผลิตกับผู้ค้าในจังหวัดต่างๆ รวมถึงมีมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน เช่น ช่วยค่าบริหารจัดการในการกระจายผลผลิตกก.ละ 3 บาท ช่วยค่าบริหารจัดการในการรับซื้อเพื่อส่งออก กก.ละ 5 บาท ช่วยเสริมสภาพคล่อง โดยการลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ยืมธนาคาร ในอัตรา 3% ต่อปี เป็นเวลา 6-10 เดือน รณรงค์คนไทยบริโภคลำไย เป็นต้น