

- เชิญมากล่อมให้ยอมร่วมมือลดค่าครองชีพ 17 ม.ค.นี้
- ลั่นปาล์มขวดยอมกลืนเลือด ขายไม่เกินขวดละ 55 บาท
- ชงครม.18 ม.ค.นี้ ของบกลาง 1.4 พันล้าน จัดขายของถูก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการตรวจติดตามราคาสินค้า ที่โลตัสรัตนาธิเบศร์ ว่า กระทรวงพาณิชย์ กำกับดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นส่วนปลายทางของภาคการผลิต โดยได้ให้เป็นนโยบายว่า การจะดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการดูแลราคา ต้องให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ต้องให้เกิดความสมดุล ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย
สำหรับราคาอาหารทั้งไก่ ไข่ไก่ และหมู กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกหลายมาตรกรในการกำกับดูแลแล้ว โดยในส่วนของไก่เนื้อ ได้ขอความร่วมมือผู้เลี้ยงตรึงราคาขายเดิมเป็นเวลา 6 เดือน ทั้งในส่วนของไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม ไก่สดทั้งตัวและชิ้นส่วน แต่จนถึงขณะนี้ ผู้ผลิตบางรายยังไม่ได้ให้ความร่วมมือ โดยชี้แจงว่า ต้นทุนการเลี้ยงปรับขึ้นสูงมาก จึงสั่งการให้กรมการค้าภายใน เชิญผู้ผลิตเหล่านี้มาหารือร่วมกันอีกครั้งวันที่ 17 ม.ค.นี้ ส่วนปริมาณ ได้รับการยืนยันจากเกษตรกรและผู้ผลิตว่า ยังมีเพียงพอ
“เรื่องไก่ กระทรวงพาณิชย์ จะแทรกแซงราคา และชี้นำตลาดในราคาพิเศษ เพื่อป้องกันการดึงราคาสูงจนเกินไป เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน โดยจะจัดจุดจำหน่ายไก่ราคาถูก 3,050 จุด ซึ่งต้องของบกลางจากรัฐบาล มาช่วยบริหารจัดการ และดูแลให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม โดยจุดจำหน่ายที่เตรียมไว้จะมีทั้งห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง ปั๊มน้ำมัน โดยเฉพาะปั๊มพีทีทั่วประเทศ 1,500 ปั๊ม ร้านสะดวกซื้อ ห้างท้องถิ่น รวมทั้งตลาดสด รถโมบายและลานสาธารณะชุมชนทั่วประเทศ” นายจุรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ม.ค.นี้ พิจารณาเห็นชอบอนุมัติงบกลาง1,400 ล้านบาท เพื่อมาจัดทำโครงการขายไก่ราคาถูก รวมถึงโครงการพาณิชย์ลดราคา! ลดค่าของชีพประชาชน เพื่อสร้างความสมดุลด้านราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ หากงบจำนวนดังกล่าวยังไม่เพียงพอก็จะขอเพิ่มเติมอีก
ส่วนกรณีวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เมล็ดและกากถั่วเหลือง ฯลฯ และผู้ผลิตอาหารสัตว์รวมถึงผู้เลี้ยงสัตว์ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา เช่น ลดภาษีนำเข้านั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ หารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว เพราะมีเรื่องของภาษี เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คาดว่า จะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ แต่ในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ล่าสุด ราคาอยู่ที่กก.ละ 10 บาทกว่า ถือเป็นเรื่องดี ที่เกษตรกรได้ประโยชน์ แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ผู้เลี้ยงสัตว์ และผู้ประบริโภคเสียประโยชน์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ต้องสร้างสมดุลให้กับทุกฝ่าย เพื่อให้อยู่รอดได้ทั้งหมด
“ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่จำเป็น ยังไม่ได้อนุญาตให้สินค้ารายการใดปรับขึ้นราคา อย่างปาล์มขวด ก็ยังขอความร่วมมือตรึงราคาขายอยู่ ถ้าพบผู้ค้ารายใดฉวยโอกาสขึ้นราคา ต้องดำเนินคดีตามมาตรา 29 กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับนอกจากนี้ ผมสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งดำเนินการโครงการคนละครึ่ง เพราะตอนนี้ ชาวบ้านเดือดร้อนมาก คนละครึ่งจะเข้ามาช่วยลดภาระค่าครองชีพได้” นายจุรินทร์ กล่าว
ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้หารือกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มขวดเพื่อการบริโภคให้ช่วยตรึงราคาขายไปก่อน เพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งผู้ประกอบการยอมกลืนเลือดให้ความร่วมมือ ขณะนี้ ราคายังขายอยู่ที่ขวดละ 50-55 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ยังอยู่ที่กก.ละประมาณ 40-45 บาทเท่านั้น แต่ขณะนี้ ราคาซีพีโอปรับขึ้นไปถึงกก.ละ 55 บาท และผลปาล์มสดปรับขึ้นไปอยู่ที่กก.ละ 10.90 บาท จากผลผลิตออกสู่ตลาดหมดแล้ว แต่ยืนยันว่า น้ำมันปาล์มขวดในท้องตลาดยังมีเพียงพอ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เดือนก.พ.65 เมื่อผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ราคาน่าจะอ่อนตัวลงได้