- คะแนนเต็ม100ไทยได้สุดต่ำแค่36คะแนน
- จากปี61อยู่ที่99ของโลกและที่5ของอาเซียน
- ชี้แก้ปัญหาคอร์รัปชันย่ำอยู่กับที่จนเพื่อนบ้านแซง
นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.63 องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ได้ประกาศการจัดอันดับดัชนีการรับรู้การทุจริตของไทยในปี 62 โดยพบว่า ไทยได้ 36 คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 101 จากทั้งหมด 180 ประเทศทั่วโลก ร่วงลงจากปีก่อนที่อยู่อันดับ 99 และเป็นอันดับที่ 6 ของอาเซียน จากปีก่อนอยู่อันดับ 5
สำหรับประเทศที่ได้อันดับ 1 ของโลกคือ เดนมาร์ค และนิวซีแลนด์ ได้ 87 คะแนนเท่ากัน ตามด้วย ฟินแลนด์ 86 คะแนน, สิงคโปร์ สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ 85 คะแนนเท่ากัน, นอร์เวย์ 84 คะแนน, เยอรมณี และลักแซมเบิร์ก 80 คะแนนเท่ากัน ส่วนประเทศอาเซียนอื่น พบว่า บรูไน อยู่อันดับ 35 ของโลก ได้ 60 คะแนน , มาเลเซีย อันดับ 51 ได้ 53 คะแนน, อินโดนีเซีย อันดับที่ 85 ได้ 40 คะแนน, เวียดนาม อันดับ 96 ได้ 37 คะแนน เป็นต้น
”ในปีนี้ ไทยได้ 36 คะแนนเท่ากับปีก่อน แต่ปีนี้อันดับของไทยร่วงลง แสดงให้เห็นว่า พัฒนาการเรื่องการปราบปราม และการเอาใจใส่ในการป้องกันปัญหาการคอร์รัปชันของไทยย่ำอยู่กับที่ ขณะที่ประเทศอื่นๆ กระตือรือร้นป้องกันและแก้ไขปัญหาจนแซงหน้าไทยไปแล้ว โดยเฉพาะเวียดนาม และอินโดนีเซีย”
อย่างไรก็ตาม แม้อันดับโลกของไทยจะร่วงลง แต่คะแนนในหลายๆ ด้านเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เช่น การจ่ายเงินใต้โต๊ะของประชาชนและเอกชนที่ให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐดีขึ้น หรือมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะลดลง นอกจากนี้ ยังพบว่า คะแนนเกี่ยวกับการเอาใจใสในการแก้ปัญหาคอร์รับชันของภาคประชาชน และเอกชนดีขึ้น ดังนั้น รัฐบาลต้องพัฒนาด้านนี้เพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการออกนโยบายที่เอื้อต่อพวกพ้องที่ยังคลุมเครืออยู่
“คอร์รัปชันจะลดลงได้เมื่อข้าราชการทำตามกติกาและไม่ยอมให้ใครทำผิด ภาคประชาชนต้องติดตาม ตรวจสอบ แสดงความเห็นได้โดยไม่ต้องกลัวใคร เพราะได้รับการปกป้องตามรัฐธรรมนูญ แต่ในความเป็นจริง กลับพบว่า มีหลายเรื่องที่ทำให้ประชาชนผิดหวัง บ่อยครั้งที่กลไกภาครัฐไม่โปร่งใส ตรงไปตรงมา มีการใช้อำนาจและกฎหมายแบบ 2 มาตรฐาน มีการแทรกแซงการบริหารราชการขององค์กรอิสระแบบทีใครทีมัน การตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายตุลาการและองค์กรอิสระยังไม่ปรากฏ”