การบินไทยนำ 7 มาตรการเข้มป้องกันไวรัสโคโรนา โดยเริ่มใช้มาตรการขั้นสูงสุด Deep cleaning มาตรการอบพ่นยาเพื่อฆ่าเชื้อ 45 นาที ทุกเที่ยวบินไป-กลับจีน 16 เที่ยวต่อวัน รวมไทยสมายล์
นายเชิดพันธ์ โชติคุณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้นำมาตรการอบพ่นสเปรย์ Calla 1452 (อ่านว่าคอลล่า หนึ่งสี่ห้าสอง) เพื่อฆ่าเชื้อโรคในอากาศยาน ทั้งบริเวณห้องผู้โดยสารและห้องนักบิน โดยระยะเวลาการพ่นยาฆ่าเชื้อบนเครื่องบินจะเริ่มจากลูกเรือคนสุดท้ายที่ลงจากเครื่องใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที โดยการพ่นยา 15 นาที และจะปิดเพื่อทำการอบฆ่าเชื้ออีก 30 นาที ขณะที่ระบบกรองอากาศจะทำการกรองเชื้อโรคได้ร้อยละ 99.99 ทำให้เครื่องบินปลอดเชื้อและมีความปลอดภัยจากพื้นที่เสี่ยง
สำหรับมาตรการอบพ่นฆ่าเชื้อในอากาศยานเป็นขั้นตอนสูงสุด เพื่อป้องกันไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็น 1 ใน 7 มาตรการการพ่นอบเริ่มใช้วันนี้วันแรก (28 ม.ค.) เพื่อยกระดับดูแลความปลอดภัยทางด้านสุขภาพอนามัยให้กับผู้โดยสาร โดยจะทำการพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาทุกเที่ยวบินที่ทำการบินกลับจากประเทศจีน จำนวน 16 เที่ยวบินต่อวัน แบ่งเป็นของการบินไทย 9 เที่ยวบิน และไทยสมายล์ 7 เที่ยวบิน
นอกจากนี้ จะทำความสะอาด Deep cleaning ทั้ง 36 จุดสัมผัส เช่น กระเป๋าหน้าที่นั่งผู้โดยสารบริเวณภายในเครื่องบินทั่วไป ที่นั่งผู้โดยสาร ครัว และห้องน้ำ โดยพนักงานจะต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันหน้ากากถุงมืออย่างเคร่งครัดมัดปากถุงให้แน่นหนาก่อนนำขยะลงจากเครื่องและทิ้งในจุดที่กำหนด โดยยังเตรียมรับมือระหว่างทำการบิน หากพบว่าผู้โดยสารมีอาการไข้สูง ผิดปกติพนักงานต้อนรับจะทำการแยกผู้โดยสารให้อยู่ในห้องที่จัดเตรียมไว้บนเครื่อง เพื่อกันไม่ให้ผู้โดยสารรายอื่นได้รับเชื้อ และกันระยะห่างที่นั่งหน้าและหลังจากผู้โดยสารที่มีการป่วยระยะห่าง 1 เมตร จากนั้นจะทำการลงจอดฉุกเฉินทันที เพื่อส่งต่อผู้โดยสารที่มีอาการป่วยไปยังโรงพยาบาลและยืนยันว่าการบินไทยยังมีศูนย์การจัดการและปฎิบัติการกรณีวิกฤติ หรือ CMOC เพื่อติดตามปรับแผนตามสถานการณ์ความรุนแรง
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวว่า แม้สถานการณ์ไวรัสโคโรนายังอยู่ในขั้นปกติ แต่บริษัทได้ยกระดับเพื่อดูแลความปลอดภัยให้ผู้โดยสารและยังสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกมาตรการเพิ่มเติมอีกด้วย.
