นายกฯเดินสายพบสมาคมโรงแรมไทย ชง 4 เงื่อนไขกระตุ้นธุรกิจกลับมาเร็วที่สุด



  • เผยไทยเปิดน่านฟ้าเมื่อใด
  • ต้องเลิกกักตัว 14 วันคนจากประเทศไม่มีการระบาดแล้ว
  • ให้รีบวินิจฉัยจ่ายเงินลูกจ้างว่างงานโรงแรมปิดกิจการ

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 8 พ.ค.2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปพบและหารือร่วมกับคณะกรรมการสมาคมโรงแรมไทย ที่สมาคมโรงแรมไทย ถนนราชดำเนิน โดยใช้เวลาหรือรวม 50 นาที โดยนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า ได้นำเสนอหัวข้อตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้โจทย์มาก่อน ว่าสิ่งที่เดือดร้อนที่สุดคืออะไร สิ่งที่รัฐบาลออกมาตรการไปแล้วดีหรือไม่ดี และทำอย่างไรจะกระตุ้นธุรกิจกลับมาได้เร็วที่สุด โดยสมาคมโรงแรมได้เสนอรวม 4 หัวข้อ ประกอบด้วย 1.เป็นการทำให้เกิดความต้องการใช้บริการโรงแรม ประกอบด้วย ขอให้จัดงบประชุมสัมมนาของภาครัฐ ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)จัดสัมมนาข้ามภูมิภาค ให้ออกมาตรการทางภาษีให้บริษัทเอกชนนำค่าใช้จ่ายจากการจัดประชุมสัมมนา ไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563-31 ธ.ค. 2564 และให้บุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวไปหักภาษีได้ 2 เท่า ในวงเงิน 30,000 บาทต่อปี ในระยะเวลาเดียวกัน โดยทั้งหมดต้องเข้าพักโรงแรมที่ถูกกฎหมายเท่านั้น

ข้อเสนอที่ 2 ขอให้รัฐบาลเข้มงวดโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต เพื่อให้คนมาใช้โรงแรมที่ถูกกฏหมาย โดยเวลาจับกุมขอให้จับตาม พ.ร.บ.โรงแรม และพ.ร.บ.การควบคุมอาคาร และทุกครั้งให้ระงับการใช้อาคาร พร้อมกับเสนอให้เพิ่มโทษโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตจากจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาทและปรับเพิ่มอีกวันละ 1 หมื่นบาท ขอให้เปลี่ยนการปรับเป็น 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท รวมทั้งขอให้ในการโฆษณาโรงแรมรวมทั้งการขายผ่านระบบออนไลน์ จะต้องใส่หมายเลขผู้ประกอบการด้วยทุกครั้ง ส่วนข้อเสนอที่ 3 ขอให้พิจารณาภาษีสนับสนุนการลงทุนเพื่อพัฒนาปรับปรุงโรงแรม การป้องกันภัยโควิด-19 และซื้อเครื่องจักรใหม่ โดยนำค่าใช้จ่ายไปหักภาษีได้ 3 เท่า ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2563-31 ธ.ค.2564 ข้อเสนอที่ 4 ขอเลื่อนการจ่ายภาษีตาม พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในช่วงการปิดกิจการโรงแรมชั่วคราว เพราะเดิมการจ่ายตามภาษีโรงเรือนจะคิดจากรายได้ ขณะที่ตามกฎหมายใหม่คิดจากมูลค่าที่ดินของโรงแรม

นอกจากนี้ ได้พูดคุยถึงนโยบายรัฐบาลที่ออกมาว่ามีอะไรถูกใจ อะไรไม่ถูกใจ ซึ่งทางสมาคมโรงแรมได้ชมการควบคุมโรคของรัฐบาลว่าทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ในการพิจารณาเปิดน่านฟ้าต่อไปให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ต้องควบคุมให้ดี และต้องยกเลิกมาตรการกักตัว 14 วัน เช่น หากจีนและไทยต่างดูแลการแพร่ระบาดของโรคได้ดีแล้ว ระหว่างสองประเทศนี้หากมีระบบการทำเอกสารรับประกัน นักท่องเที่ยวจากจีนก็ไม่ต้องถูกกักตัว 14 วันเป็นต้น ส่วนเอกสารรับประกันจะเป็นอย่างไรต้องอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด อีกทั้งได้ขอให้รัฐบาลออกแนวทางปฏิบัติให้กับสำนักงานประกันสังคมแต่ละจังหวัด เพราะตอนนี้มีหลายจังหวัดไม่ยอมวินิจฉัยการว่างงานที่มาจากเหตุสุดวิสัยให้กับลูกจ้างของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราว เพื่อจ่ายเงินว่างงานให้ 62% ของค่าจ้างรายวัน โดยอ้างว่าส่วนกลางยังไม่ให้แนวปฏิบัติมา ทำให้วินิจฉัยให้ไม่ได้

“สุดท้ายได้มีการแจ้งนายกฯว่าโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นศูนย์กักตัวของภาครัฐ หรือ State Quaratine ยังไม่ได้เงินจากกระทรวงกลาโหมเลย เพราะงบยังไม่ถูกส่งมา ซึ่งก็ได้คุยกับทีมของกระทรวงกลาโหมแล้วขอให้วางบิลกลับมา เมื่องบอนุมัติมาก็จะเบิกจ่ายได้ทันที ซึ่งตรงนี้นายกฯได้ถามขึ้นมาว่าคุยกันแล้วใช่มั๊ย พร้อมพูดแซวตัวเองว่า ใครเป็นรัฐมนตรีกลาโหม”