นายกฯตั้งวงหารือวิธีแก้หนี้ประชาชน มอบ “สุพัฒนพงษ์”ตั้งคณะทำงานภายใต้ ศบศ.ออกมาตรการระยะสั้นและระยะยาว



  • ครอบคลุมทั้งหนี้กยศ. ครู ข้าราชการ หนี้เช่าซื้อรถยนต์ มอเตอร์ไซด์
  • หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล รวมทั้งหนี้ครัวเรือน
  • ให้คนมีเงินเหลือจ่าย ลดการสร้างหนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวร์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนรายย่อย ให้กับประชาชนกลุ่มต่างๆ ได้แก่ หนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา( กยศ). 3.6 ล้านคน ผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านคน หนี้ครู ข้าราชการ 2.8 ล้านบัญชี หนี้เช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ 6.5 ล้านบัญชี หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 49.9 ล้านบัญชี ปัญหาหนี้สินอื่นๆ ของประชาชน 51.2 ล้านบัญชี โดยที่ประชุมเห็นว่า การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนให้เบ็ดเสร็จต้องทำ 3 เรื่องควบคู่กัน คือ การให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน การกำกับดูแลเจ้าหนี้ให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรม และการปรับโครงสร้างหนี้และการไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สิน
โดยมีมาตรการระยะสั้นและระยะยาว ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษาหามาตรการเพื่อดำเนินการ ให้เกิดกระบวนการรวดเร็วขึ้น โดยมอบให้มีคณะทำงานในเรื่องนี้ ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการร์เศรษฐกิจ (ศบศ.) โดยให้นายสุพัฒนพงษ์ รับผิดชอบ สำหรับมาตรการระยะสั้น เช่น ไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สินเพื่อลดการดำเนินคดีกับประชาชน เช่น หนี้ กยศ. หนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หนี้สหกรณ์ การลดภาระดอกเบี้ยของประชาชน ทั้งในส่วนสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อพิโก ไฟแนนซ์ และนาโน ไฟแนนซ์ สำหรับประชาชน ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของครูและข้าราชการ รวมถึงสหกรณ์ ปรับรูปแบบการชำระหนี้ รวมถึงปรับลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ไม่จำเป็น
ขณะเดียวกันต้องยกระดับการกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) คุ้มครองความเป็นธรรมให้ประชาชนที่เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และให้ธปท. ทบทวนเพดานอัตราดอกเบี้ยและการกำกับดูแลบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียน รวมทั้งการกำกับดูแลไม่ให้การบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อของสถาบันการเงิน/สหกรณ์สร้างภาระแก่ผู้กู้จนเกินสมควร และเพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยและ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เช่น จัดให้มีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟท์โลน สำหรับเอสเอ็มอีที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายไดเ(เอ็นพีแอล) เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ การเพิ่มจำนวนโรงรับจำนำและโรงรับจำนอง
สำหรับมาตรการระยะยาว ได้มีการพูดถึงหลักการสำคัญ คือต้องทำให้เกิดสภาพแวดล้อมของการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย และมีการคุมยอดวงเงินกู้ที่เหมาะสม เช่น รัฐต้องเร่งส่งเสริมการแข่งขันให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง เพิ่มระบบให้ผู้ฝากเงินมาเป็นผู้ให้สินเชื่อโดยรับความเสี่ยงมากขึ้นผ่านระบบดิจิทัล การจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่เพื่อกำกับดูแลสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อรายย่อยเป็นการเฉพาะ การจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางธุรกิจและการเงิน เพื่อชะลอการฟ้อง อำนวยความสะดวกให้การฟื้นฟูหนี้รายบุคคลที่มีเจ้าหนี้หลายราย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือในเรื่องการให้ความช่วยเหลือเด็กรุ่นใหม่/คนเกษียณที่มีภาระหนี้สิน โดยจะออกมาตรการเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย เรื่องที่อยู่อาศัย และค่าเดินทางระบบขนส่งมวลชนในราคาถูก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่คนไทยจะได้รับจากมาตรการดังกล่าวคือ1. มีเงินเหลือใช้จ่ายมากขึ้นจากภาระหนี้ที่ดอกเบี้ยลดลงได้ 2-3% ต่อปี 2. ลดปัญหาการสร้างหนี้เกินตัวลงได้ทันที 3.เพิ่มโอกาสทางสังคมและลดความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นรูปธรรม 4. ใช้การจัดการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐมาแก้ไขปัญหารากแก้วโดยใช้งบประมาณรัฐน้อยที่สุด