

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านไลฟ์สดเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ว่า สำหรับการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้น วันนี้ ครม.ได้อนุมัติงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการเตรียมเงินสำหรับรองรับวัคซีน โดยจะเข้ามาในระยะแรก 2 ล้านโดส ปลายเดือนมี.ค.ประมาณ 8 หมื่นโดส สำหรับประชาชน 4 แสนคน เดือนเม.ย.จะได้อีก 1 ล้านโดส เพียงพอสำหรับประชาชน 5 แสนคน ปลายเดือนพ.ค.อีก 26 ล้านโดส สำหรับประชาชน 13 ล้านคน
โดยทั้งหมดจะต้องผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยา(อย.)ของเราและอย.ต่างประเทศด้วย และวันนี้ได้มีการสั่งจองเพิ่มบริษัท AstraZeneca อีก 35 ล้านโดส ฉะนั้นรวมทั้งหมดจะมีประชาชนประมาณเกือบ 60 ล้านคน ที่จะได้รับการฉีควัคซีนตามระยะเวลาที่วัคซีนเข้ามา จากข้อมูลสาธารณสุข คิดว่าเพียงพอ ต้องฉีดคนละ 2 โดส ห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ ทยอยฉีด
“ส่วนวัคซีนที่ได้มาจะให้กลุ่มใดก่อน-หลังนั้น จะเป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่สำคัญผู้ที่อยู่หน้างาน ใกล้ชิดการตรวจคัดกรอง และผู้เจ็บป่วยโควิด ต้องให้ความสำคัญส่วนนี้ก่อน และผู้ที่จะมีความเสี่ยงเกิดโรครุนแรง หรือการแพทย์ด่านหน้า ประชาชนผู้สูงอายุ ประชาชนที่มีโรคเรื้อรัง และอื่นๆที่มีความจำเป็น ส่วนล็อตที่ 2 จำนวน 26 ล้านโดส จะเริ่มส่งมอบเดือนมิ.ย. และวัคซีนล็อตต่อไปๆเราจะมีการแสวงหาจากประเทศอื่นๆอีกด้วย เพื่อให้รวดเร็วตามความต้องการของประชาชน” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของวัคซีน แอสตราเซเนกา(AstraZeneca) ของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงตั้งไว้ในสถานการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระองค์ได้ทรงพระราชนุญาตให้ใช้ในการผลิตวัคซีนได้ คาดว่าจะผลิตได้ประมาณปีละ 200 ล้านโดส ในระยะต่อไป ฉะนั้นน่าจะเพียงพอในการให้วัคซีนได้ทั่วทั้งประเทศ และเพื่อความรวดเร็วได้เปิดให้ภาคเอกชน รัฐบาล จัดหาได้ แต่ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานของ อย.และอยู่ในการควบคุมการใช้ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเอกชน หรือธุรกิจอะไรก็แล้วแต่
ส่วนเรื่องผลข้างเคียงนั้น นายกฯกล่าวว่า วันนี้จากการติดตามสัดส่วนอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ซึ่งต้องติดตามเพราะนี้คือความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการรับวัคซีนในระยะนี้ วันนี้มีการฉีดในหลายประเทศ หลายยี่ห้อ เราต้องติดตามทุกประเทศ เพราะเราต้องการให้คนไทยปลอดภัยมากที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ต้องให้ความสำคัญจำกัดการแพร่ระบาดให้ได้โดยเร็ว เอาคนที่ติดเชื้อมาควบคุม รักษาพยาบาลให้ได้โดยเร็ว ส่วนผู้ที่เป็นแล้วก็ใช้ยารักษาอีกตัวหนึ่ง ซึ่งมีการจัดหาไว้อย่างเพียงพอ