- ดาวโจนส์เผชิญแรงเทขายทำกำไรหนัก หลังทะลุ29,000จุดเป็นครั้งแรก
- นักวิเคราะห์มองขึ้นเร็วเกินไป อาจปรับฐานใหญ่ในปีนี้
- นักลงทุนผิดหวังตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าที่คาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,823.77 จุด ลดลง 133.13 จุด หรือ -0.46%, ดัชนีเอสแอนดฺพี 500 ปิดที่ 3,265.35 จุด ลดลง 9.35 จุด หรือ -0.29% ส่วนดัชนี แนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,178.86 จุด ลดลง 24.57 จุด หรือ -0.27%
ทั้งนี้ในระหว่างการซื้แขายช่วงเช้าดัชนี ดาวโจนส์พุ่งทะลุระดับ 29,000 จุดได้เป็นครั้งแรก และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 29,009.07 จุด จากความเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดสงครามรุนแรงในตะวันออกกลาง และการเตรียมการลวนามข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯในเฟสแรก
อย่างไรก็ตาม ดัชนียืนอยู่ไม่ได้ โดยหลังจากนั้น เริ่มมีแรงเทขายทำกำไรหุ้นออกมาต่อเนื่อง โดยด่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเร็วกว่าที่ควรจะเป็นแล้วและอาจจะมีการปรับฐานครั้งใหญ่ในปีนี้ ประกอบกับยังเห็นความเสี่ยงหลายปัจจัยในอนาคต
นักลงทุนส่วนหนึ่งยังผิดหวังกับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 160,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.5% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี และตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ย เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนธ.ค. จาก 0.3% ในเดือนพ.ย.
ขณะที่ตัวเลขภาคธุรกิจทรงตัว โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง ลดลง 0.1% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งอาจทรงตัวในเดือนพ.ย. ส่วนยอดขายในภาคธุรกิจค้าส่งเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนพ.ย