ธ.ก.ส.คลอดมาตรการฝ่าวิกฤตภัยแล้ง



  • ยืดเวลาชำระหนี้ให้ถึง 2 ปี
  • จัดเงินสินเชื่อ 5,000ลบ. ดอกเบี้ย 0%
  • สร้าง พัฒนา และปรับปรุงแหล่งน้ำ

  นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ  ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ  ทำให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตร อย่างไรก็ตาเบื้องต้นมีประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว 20 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน นครพนม มหาสารคาม บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบูรณ์ อุทัยธานี นครราชสีมา อุตรดิตถ์ ชัยนาท นครสวรรค์ สุโขทัย สุพรรณบุรี พะเยา และสกลนคร

                  ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและคลายความกังวลในเรื่องภาระหนี้สินของเกษตรกร  คณะกรรมการ ธ.ก.ส. ซึ่งมีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการธ.ก.ส. ได้มีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. เร่งดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ประกอบด้วยการแก้ไขปัญหาหนี้สินเดิม โดย ธ.ก.ส.ขยายเวลาชำระหนี้ต้นเงินกู้ที่ถึงกำหนดชำระออกไปอีก 2 ปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2563 ถึง 31 ธ.ค. 2564

นอกจากนี้ ยังได้จัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง ปี 2563 เพื่อเป็นเงินทุนสนับสนุนในการจัดหา สร้าง/พัฒนา และปรับปรุงแหล่งน้ำไว้ใช้ในยามวิกฤต และลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งวงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท โดยเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งสามารถกู้เพื่อนำไปลงทุนได้รายละไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี ใน 2 ปีแรก ส่วนปีที่ 3 เป็นต้นไป คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR-2 (ปัจจุบัน MRR= 6.875) กำหนดชำระคืนไม่เกิน 10 ปี ระยะเวลาสนับสนุนสินเชื่อ ตั้งแต่ 1ก.พ.-31 ธ.ค.2563

“ในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้มอบหมายให้พนักงานในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเกษตรกรลูกค้า และสำรวจความเสียหาย พร้อมจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค จัดหาถุงยังชีพในรายที่จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และในกรณีที่เกษตรกรทำประกันภัยพืชผล จะได้รับชดเชย ข้าวนาปี 1,260 บาทต่อไร่ ข้าวโพด 1,500 บาทต่อไร่”

นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เช่น สินเชื่อฉุกเฉิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ ซึ่งผลการดำเนินงาน ณ 27 ม.ค. 2563 จ่ายสินเชื่อไปแล้วเป็นเงิน 3,890 ล้านบาท จำนวนเกษตรกร 79,676 ราย สินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ประสบภัย จ่ายสินเชื่อไปแล้ว เป็นเงิน 2,060 ล้านบาท จำนวนเกษตรกร 10,831 ราย