

- มองดอกเบี้ยต่ำ-มาตรการกระตุ้นอสังหา
- ช่วงหนุนอสังหาขยายตัวได้ 5-7%
- แต่ยังต้องจับตาสงครามสหรัฐฯ-จีน
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ในปี 2562 ที่รัฐบาลได้ออก 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบด้วย มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้จากการซื้อบ้านและห้องชุด (บ้านหลังแรก) ไม่เกิน 200,000 บาท มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือประเภทละ 0.01% สำหรับการซื้อบ้านจัดสรรและห้องชุดราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท (รวมบ้านสร้างใหม่ และบ้านมือสอง)
และมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือประเภทละ 0.01% สำหรับซื้อบ้านจัดสรรและห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทที่ซื้อจากผู้ประกอบการ ส่งผลให้สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศในปี 2562 ปรับตัวดีขึ้นจากปี 2561 โดยมียอดจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ถึง 373,365 หน่วย และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ถึง 875,189 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวจากปี 2561 ถึง 2.7% และขยายตัวทางมูลค่า 4.3%
ส่วนทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยปี 2563 ทางศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยต่ำที่เป็นขาลง รวมทั้งมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของรัฐบาล และการผ่อนปรนเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. แต่ยังคงมีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว อาทิ การระบาดของโควิด-19 สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ จีน
“อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้น่าจะมีภาวะทรงตัวต่อเนื่องจากปี 2562 แต่ยังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้สูงถึง 5-7% หากเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศมีการขยายตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานและทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยตัดสินใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น”