“ธปท.” ฟันธง! เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/2565 ยังโตได้ ยก “ท่องเที่ยว” เป็นพระเอกหนุนเศรษฐกิจ



  • ชี้ทิศทางเงินเฟ้อของไทย ได้ผ่านจุดพีคไปแล้วในช่วงเดือน ส.ค.65
  • คาดเงินเฟ้อทั่วไป จะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 66
  • เผยต้องจับตา อุปสงค์จากต่างประเทศที่ชะลอตัวลง การเปิดประเทศของจีน การปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุน

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2565 ยังเป็นไปได้ตามคาด โดยมีทั้งปัจจัยบวกที่ดีกว่าคาดการณ์ คือ ภาคการท่องเที่ยว และปัจจัยลบในเรื่องเศรษฐกิจโลกที่เริ่มส่งผลให้เห็น 2 เดือนผ่านการส่งออกที่ขยายตัวเป็นลบ แต่โดยภาพรวมแล้วเศรษฐกิจยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามที่คาดการณ์ไว้ โดยในปี 2566 ประเมินว่าการส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ที่ระดับ 1% ถือว่าลดลงมามากแล้ว เพราะมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกมากน้อยแค่ไหน

ทั้งนี้ ทิศทางอัตราเงินเฟ้อของไทยนั้น ยืนยันว่าได้ผ่านจุดพีคไปแล้วในช่วงเดือน ส.ค. 2565 และจะทยอยปรับตัวลดลง โดยคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือน ธ.ค. 2565 นั้น คาดว่าจะยังคงฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยยังมีปัจจัยที่ต้องจับตา อาทิ อุปสงค์จากต่างประเทศที่ชะลอตัวลง การเปิดประเทศของจีน การปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุน และความต่อเนื่องของการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคส่วนต่าง ๆ ขณะที่ในเดือน พ.ย. 2565 เศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางการฟื้นตัว จาก ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปรับเพิ่มขึ้น การบริโภคภาคเอกชน และปัจจัยชั่วคราวที่ส่งผลกระทบในเดือนก่อนได้ทยอยหมดลง

“อาจจะเห็นบางองค์ประกอบที่ชะลอลง เช่น ภาคการส่งออก ที่อาจจะส่งผลไปยังการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุน เงินเฟ้อทั่วไปในหมวดอาหารสดปรับตัวลดลง แต่เงินเฟ้อพื้นฐานอาจจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้าง โดยในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวคิดว่าในช่วงต้นปีคงมีการปรับเพิ่มคาดการณ์อยู่แล้ว โดยยังต้องดูข้อมูลภายหลังการเปิดประเทศของจีนด้วยว่าจะมีผลกับการเดินทางเข้ามาในไทยมากแค่ไหน ต้องมีการประมวลข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเรื่องจีนเปิดประเทศ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่โดยรวมเชื่อว่าในเรื่องท่องเที่ยวแนวโน้มจะดีกว่าประมาณการเดิมอยู่แล้ว ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังต้องดูหลายปัจจัย มีทั้งที่เป็นปัจจัยบวกและลบสำหรับปีนี้และปีหน้า แต่มองว่ายังใกล้เคียงกับที่คาดการณ์” นางสาวชญาวดี กล่าว

นางสาวชญาวดี  กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ย. 2565 ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยมีแรงส่งจากภาคบริการที่ฟื้นตัวต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยุโรปและสหรัฐฯ เป็นผลต่อเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมในภาคบริการ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวปรับดีขึ้นต่อเนื่อง และเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นหลังผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวในเดือนก่อนหมดลง สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกสินค้าปรับลดลงตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ปรับลดลง

อย่างไรก็ดี ในส่วนของเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อน ตามอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดเป็นสำคัญ จากราคาผักที่ลดลงตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้นหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามราคาอาหารสำเร็จรูป อุปกรณ์ซักล้างทำความสะอาด และของใช้ส่วนตัว ด้านตลาดแรงงานโดยรวมทยอยฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลจากดุลการค้าที่เกินดุลลดลงเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนขาดดุลใกล้เคียงกับเดือนก่อน