- จนท.เข้มงวดป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ
- บอกทัวร์ไทยตัดราคากันเอง
- เล็งทำ MOU กำหนดราคากลาง
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม2566 นายอภิลาภ บุญโสภา คณะทำงานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือ (NTTC) เผยปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่นำชาวจีนมาท่องเที่ยวในเชียงใหม่ว่า
เริ่มมีทัวร์ดังกล่าวเข้ามาท่องเที่ยว หลังโควิด-19 ระบาดมากว่า 3 ปี ส่วนใหญ่มาแบบกรุ๊ปทัวร์ 30-40 คน โดยขายตั๋วราคาถูก ก่อนนำขายให้บริษัททัวร์ และมัคคุเทศก์ รับงานดังกล่าว เพื่อนำไปใช้บริการที่พัก ร้านอาหารและของที่ระลึกทั่วไป บางส่วนไปใช้บริการที่นักลงทุนชาวจีนเปิดบริการ สังเกตจากมีที่พัก ร้านอาหาร สถานบันเทิง ที่นักลงทุนจีนร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการท้องถิ่น หรือนอมินีมากขึ้น
โดยเฉพาะค่าเช่าอาคาร หรือห้องแถว เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากเดิมห้องละ 10,000 บาท/เดือน เป็น 20,000 บาท ซึ่งสะท้อนการลงทุนของชาวจีนเพิ่มขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ทัวร์ศูนย์เหรียญ โอกาสเติบโตยาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนรู้ทัน มีข้อมูลท่องเที่ยวเชียงใหม่มากขึ้นจึงเดินทางมาท่องเที่ยวเอง โดยไม่ผ่านทัวร์จีน หรือไกด์ไทยอีก ทำให้ทัวร์ศูนย์เหรียญได้รับผลกระทบมากขึ้น ไม่สามารถหาลูกค้าป้อนตลาดได้ ประกอบภาครัฐและเจ้าหน้าที่เริ่มเข้มงวดการทำธุรกิจดังกล่าวมากขึ้น เพื่อป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ หรือธุรกิจสีเทามากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการท้องถิ่นเปิดกิจการท่องเที่ยวเพิ่ม โดยขึ้นป้ายหน้าร้าน และแจกใบปลิวเป็นภาษาจีน โดยคิดค่าบริการราคาถูก เพื่อตัดราคาทัวร์กันเองอาจส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กประสบภาวะขาดทุน หรือไปไม่รอดได้
ดังนั้น ได้ประชุมสมาชิกกว่า 400-500 ราย เพื่อขอความร่วมมือไม่ตัดราคาทัวร์ พร้อมเสนอทำบันทึกข้อตกลงหรือ MOU กำหนดราคากลางเพื่อเป็นมาตรฐานบริการนักท่องเที่ยว และใช้เป็นแนวทางปฏิบัติเดียวกัน ไม่สร้างปัญหาตามมาอีก โดยเชิญสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคเหนือเข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังปัญหาดังกล่าวและแนวทางแก้ไขเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย