ทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยเสนอ 5 ประเด็นขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย



ทีมเศรษฐกิจพรรค เพื่อไทยให้ความสำคัญกับการหาตลาดใหม่ๆที่จะหารายได้ให้กับประเทศโดยเน้นไปที่ตลาดตะวันออกกลาง สร้างสินค้าและบริการตรงความต้องการ

  • ส่งออกต้องหาตลาดใหม่-ผลิตสินค้าตรงความต้องกา
  • ตอบโจทย์นักลงทุนรายอุตสาหกรรมและรายประเทศ
  • นวัตกรรมทางการเงินช่วยเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนมากขึ้น
  • สังคมสูงวัยสร้างไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์
  • ระบบภาษีไม่กระทบการลงทุน-เศรษฐกิจหดตัว

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้ประชุมหารือกันอย่างต่อเนื่อง นำโดย นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช  ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานกรรมการ, นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์  ที่ปรึกษา, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษา, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา  โดยร่วมกันประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและทิศทางการขับเคลื่อนประเทศต่อไป ประเด็นที่สำคัญได้แก่ ประเด็นแรกปัญหาการส่งออกที่ชะลอตัวในปัจจุบัน เนื่องจากการส่งออกเป็นรายได้สำคัญของประเทศและในอนาคตจะเจอกับปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการหาตลาดใหม่ๆที่จะหารายได้ให้กับประเทศโดยเน้นไปที่ตลาดตะวันออกกลาง รวมถึงการสร้างสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการ

“เราทำใน 2 มิติ เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งออกคือ การหาตลาดใหม่และปรับสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด ขณะที่ค่าเงินบาทต้องมีเสถียรภาพและมีความคงตัว ออกไปทางอ่อนค่าได้บ้างเล็กน้อยเพื่อทำให้เป็นการส่งเสริมรายได้จากการส่งออกในระยะสั้น”

ประเด็นที่สองคือ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI) ตัวเลขในอดีตอยู่ที่ 40% ขณะนี้ลดลงเหลือ 9% เป็นสัญญาณอันตราย เป็นรายได้ที่หายไปของประเทศ รายได้ที่จะต้องกู้กลับคืนมา การดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะต้องมีมาตรการที่มีความยืดหยุ่นสูงขณะเดียวกันต้องมีการชี้เฉพาะรายตัว ตอบโจทย์นักลงทุนรายอุตสาหกรรมและรายประเทศให้ได้ ให้ตรงกับความต้องการ ไม่ใช่มาตรการตัดเสื้อโหลแล้วจะทำให้ทุกคนพึงพอใจ

ประเด็นที่สาม เอสเอ็มอีประมาณ 1 ใน 5 กำลังประสบปัญหาเรื่องหนี้สิน ส่งผลต่อไปในอนาคตในเรื่องความสามารถเข้าถึงแหล่งทุนของเอสเอ็มอีที่กำลังจะเกิดขึ้น ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้หารือถึงการใช้เครื่องมือใหม่ๆ นวัตกรรมทางการเงินที่จะตอบโจทย์ในการทำให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนมากยิ่งขึ้น การใช้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเข้าไปช้อนสินเชื่อที่ถูกปฏิเสธโดยธนาคารพาณิชย์ด้วย

ประเด็นที่สี่ เรื่องสังคมสูงวัย เป็นปัญหาที่อยู่ในระยะกลางและระยะยาวแต่ต้องรีบแก้ไขในระยะสั้น แบ่งเป็น 2 มิติ คือเรื่องแรงงานลดลงและผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น นำมาสู่รายได้ของประเทศกำลังลดลงแต่รายจ่ายกำลังมากขึ้นและจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจนไปสู่ทางตันในที่สุด ทีมเศรษฐกิจเสนอทางออก 2 ทางได้แก่ การเพิ่มจำนวนแรงงาน หรือการเพิ่มอัตราการเกิด และการเพิ่มผลิตภาพของแรงงานให้แรงงานหนึ่งคนสามารถผลิตได้สูงขึ้น อย่างไรก็ตามสังคมสูงอายุในโลกทำให้มีกำลังซื้อมากขึ้น จึงมองไปถึงการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ อาหารออแกนิคมีคุณภาพรองรับสังคมสูงวัย รวมถึงการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและพำนักระยะยาว

ประเด็นสุดท้าย เรื่องระบบภาษี ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้วิเคราะห์ระบบภาษีที่เหมาะสมกับประเทศไทย ได้คำตอบว่าต้องเป็นระบบภาษีที่ไม่กระทบต่อการลงทุนของประเทศและไม่ทำให้เศรษฐกิจหดตัวในระยะยาว