- เหตุมีเอฟทีเออาเซียน-ฮ่องกงอยู่แล้ว
- ฮ่องกงลดภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการให้ไทย
- แนะใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอที่มีให้มากขึ้นดีกว่า
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมได้จัดสัมมนาเปิดรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในประเด็นหากไทยจะจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-ฮ่องกง ไทยจะได้ประโยชน์หรือมีผลกระทบอะไรเพิ่มเติมจากเอฟทีเออาเซียน – ฮ่องกง หรือไม่ และหากในอนาคตฮ่องกงเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) แล้ว เอฟทีเอไทย-ฮ่องกง ยังมีความจำเป็นหรือไม่
ทั้งนี้ ผลจากการเปิดรับฟังความเห็น หากไทยและฮ่องกง ทำเอฟทีเอระหว่างกัน พบว่า ด้านการเปิดตลาดสินค้าไทยจะไม่ได้รับประโยชน์เพิ่มเติม เนื่องจากฮ่องกงได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรในสินค้าทุกรายการให้ไทยแล้วภายใต้เอฟทีเออาเซียน – ฮ่องกง แต่ในส่วนของภาคบริการ จะสามารถทำให้ฮ่องกงสนใจที่จะเข้ามาประกอบธุรกิจและลงทุนเพิ่มเติมในไทยได้ เช่น สาขาอสังหาริมทรัพย์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การเงิน ประกันภัย และโลจิสติกส์
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ เห็นว่า ระหว่างนี้ไทยควรเร่งใช้สิทธิประโยชน์จากเอฟทีเออาเซียน – ฮ่องกง ที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และจากการที่ฮ่องกงและจีนมียุทธศาสตร์ความร่วมมืออ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ซึ่งจีนกำหนดให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเมืองและอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงนั้น ไทยควรเร่งยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับฮ่องกงให้เป็นรูปธรรม ทั้งเรื่องพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การเงินและประกันภัย เทคโนโลยีดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐาน และโลจิสติกส์ เพื่อใช้ฮ่องกงเป็นประตูการค้าสู่จีน
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้มีกลไกการหารือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทย-ฮ่องกง เช่น คณะกรรมการร่วมทางการค้า (เจทีซี) ระหว่างภาครัฐ และสภาธุรกิจไทย-ฮ่องกงระหว่างภาคเอกชน เพื่อเป็นเวทีหารือส่งเสริมความร่วมมือ และแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเพิ่มโอกาสขยายตลาดเข้าสู่ฮ่องกงในสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ เช่น สินค้าเกษตร อาหาร ผลไม้ อาหารที่ทำจากพืช สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพและการทำงานอยู่บ้าน ตลอดจนสินค้าในภาคบริการ อาทิ อุตสาหกรรมบันเทิง สุขภาพ และอสังหาริมทรัพย์
