

- อธิบดีกรมทางหลวง โต้ข้อมูล “ศรีสุวรรณ จรรยา”
- ยืนยันเปิดผิวจราจรมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ให้ประชาชนใช้ช่วงสงกรานต์
นายสราวุธ ทรงศรีวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกมาระบุว่า คำสั่งของนายกรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการเปิดใช้มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช บางช่วงให้ประชาชนใช้สัญจรได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เพื่อช่วยบรรเทาความหนาแน่นของการจราจร ในการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวของประชาชน โดยนายศรีสุวรรณระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวตามข้อสั่งการของนายกฯ อาจมีปัญหา เพราะกรมทางหลวง ยังค้างจ่ายค่าเวนคืนที่ดินให้กับชาวบ้าน มากว่า 9 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตามในประเด็นดังกล่าวอธิบดีกรมทางหลวงระบุว่า การดำเนินการจ่ายค่าเวนคืนในโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน- โคราชนั้น กรมทางหลวงได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปี 2563 โดยได้มีการจ่ายค่าเวนคืนเบื้องต้นให้แก่ประชาชนในแนวเส้นทางทั้งหมดและได้มีการเข้าพื้นที่ก่อสร้างตลอดแนวเส้นทางแล้ว อย่างไรก็ตามตามขั้นตอนของกฎหมายนั้นหากประชาชนที่ได้รับเงินค่าเวนคืนไม่พอใจก็สามารถอุทธรณ์เพื่อขอรับค่าเวนคืนเพิ่ม รวมทั้งสามารถยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้ ซึ่งหากกรมทางหลวงพิจารณาเห็นว่าคำอุทธรณ์. สมควรต้องมีการจ่ายค่าเวนคืนเพิ่มหรือต้องดำเนินการตามคำสั่งศาล กรมทางหลวงยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมที่จะมีการขอจัดสรรงบประมาณเพิ่มจากสำนักงบประมาณเพื่อทยอยจ่ายค่าเวนคืนส่วนที่เพิ่มเหล่านี้
นายสราวุธ กล่าวต่อว่า โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชนี้ พบว่า ปัจจุบันมีประชาชนที่ถูกเวนคืน และอุทธรณ์จนต้องมีการจ่ายค่าเวนคืนเพิ่มทั้งสิ้น 361 ราย คิดเป็นวงเงินที่ต้องมีการจ่ายค่าเวนคืนเพิ่มเติม เงินเพิ่มรวมดอกเบี้ยวงเงิน 415 ล้านบาท ซึ่งกรณีนี้ จะได้รับการจัดสรรงบประมาณในการจ่ายให้แก่ประชาชนทั้งหมด ตั้งแต่ปีงบประมาณ2564 -2565 ซึ่งกรมทางหลวงก็จะมีการทยอยดำเนินการไป แต่ยืนยันว่าวงเงินดังกล่าวนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องต่อการเข้าพื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการแต่อย่างใด
นอกจากนี้ การเปิดใช้ผิวมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราชบางส่วนในเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งจะมีการเปิดใช้ผิวจราจรให้ประชาชนใช้บางส่วน อยู่ในตอนที่มีการที่ก่อสร้าง คือ ตอนที่ 24 – 37 และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า เงินที่ค้างจ่ายค่าเวนคืนส่วนที่เพิ่มนี้ ไม่มีรายใด อยู่ในการก่อสร้างของงานตอนดังกล่าวแน่นอน