

- ททท.แท็คทีม Visa Worldwide เดินหน้า MOU 1 ปี ชูความร่วมมือ 4 เรื่อง “3 Co+1 Value”
- ปั๊มรายได้ปีท่องเที่ยวไทยเข้าเป้า 2.38 ล้านล้านบาท ผนึกกลยุทธ์ปลุกกำลังซื้อตลาดกระเป๋าหนัก ต่างชาติและคนไทย
- นักช้อป ทัวร์สุขภาพ บิ๊กวีซ่ายันพร้อมใช้ทุกช่องทางหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นเร็ว
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ได้ลงนามข้อตกลงความเข้าใจ(MOU) กับบริษัท Visa Worldwide Pte. Ltd โดยมีนางแดเนียล จิน หัวหน้าฝ่ายการตลาด วีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นตัวแทน เพื่อร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศกระตุ้นรายได้ปีท่องเที่ยวไทย 2566 หรือ Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งจะเป็นหนึ่งในกลไกที่นำมาใช้ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในเชิงคุณภาพและบรรลุเป้าหมายเชิงรายได้มากกว่าเชิงปริมาณอย่างต่อเนื่องได้ด้วย
โดยเฉพาะการฟื้นกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศระยะใกล้และคนไทยที่มีศักยภาพใช้จ่ายสูง นิยมการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เยี่ยมญาติ/ครอบครัว โดยเฉพาะการชอปปิ้งสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไทยเป็นอันดับต้น ๆ และสามารถช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง


ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่าความร่วมมือกับทางวีซ่าครั้งนี้มุ่งสร้างเครือข่ายความมือกับพันธมิตรท่องเที่ยวผู้ประกอบการตามสร้างห่วงโซ่คุณค่าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสนับสนุนการทำกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มมีกำลังซื้อสูงและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่มตลาดระยะใกล้ภายใต้กรอบความร่วมมือ3 Co 1 Value 4เรื่องคือ
เรื่องที่ 1 CO-Event ร่วมจัดงานและพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวร่วมกันผ่าน 2 โครงการหลัก ได้แก่1.Amazing Thailand Grand Sale (ATGS) เพื่อส่งเสริมการชอปปิ้งและกระตุ้นการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทย และ 2.ส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยให้เป็น 1 ใน 5 เมืองท่องเที่ยวด้านการชอปปิ้ง และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health & Wellness Tourism) ระหว่างเดือนมีนาคม–กันยายน 2566
เรื่องที่ 2 CO-Communication ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวควบคู่กับซอฟท์ เพาเวอร์ (5F) เพื่อสร้างความรับรู้เจาะกลุ่มเป้าหมายเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย
เรื่องที่ 3 CO-Increase Number of Tourist กระตุ้นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดศักยภาพที่มีอัตราฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มประเทศระยะใกล้ เช่น จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร OTA (Online Travel Agent) และสายการบิน
เรื่องที่ 4 Value Added by VISA เพิ่มโอกาสทางการตลาดเแก่ผู้ประกอบการในโครงการ และเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถือบัตร VISA เพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการเดินทางจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ
ประการสำคัญยังจะสามารถปลุกกระแสเพิ่มจุดขายต้อนรับเทรนด์ใหม่จาก “ตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Health & Wellness Tourism” กำลังซื้อซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงทั้งคนไทยและต่างชาติหันมารักสุขภาพตัวเองมากขึ้น รวมทั้งต้องการท่องเที่ยวมุมมองใหม่ คาดหวังจะได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า แรงบันดาลใจ และค้นหาตัวตนผ่านการออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น


ปี 2566 ททท.ตั้งเป้าหมายจะฟื้นการท่องเที่ยวกลับมาให้ได้ 80 % ของปี 2562 สร้างรายได้รวมสูงสุด 2.38 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 – 30 ล้านคน ด้วยรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท ขานรับพฤติกรรมนักเดินทางนานาชาติหลังสถานการณ์โควิด-19 มุ่งแสวงหาสินค้าท่องเที่ยวและบริการที่มีความคุ้มค่าและมีคุณภาพจึงจะตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางใช้เงิน
นางแดเนียล จิน หัวหน้าฝ่ายการตลาด วีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ปี 2566 วีว่าได้เห็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาเยือนประเทศไทยมากขึ้น และด้วยพื้นฐานความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองหน่วยงานที่ได้ร่วมสร้างต่อเนื่องมาตลอด 2 ทศวรรษ พร้อมใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมด้านข้อมูล ความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายวีซ่าที่มีอยู่ทั่วโลกวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ และขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ โดยหวังผลความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยก้าวไปข้างหน้า และสร้างเศรษฐกิจของประเทศเติบโตควบคู่กันไปในระยะยาว
วีซ่าได้นำเสนอรายงานด้านธุรกิจและเศรษฐกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั่วโลก เมื่อปี 2565 กรุงเทพมหานคร เป็นจุดหมายปลายทางหลักของเอเชีย แปซิฟิก มีนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทาง โดยใช้จ่ายเงินสูงกว่าปี 2562 ผ่านร้านค้า เพิ่มขึ้น 113 % และร้านอาหาร 74 % มีสัญญาณและแนวโน้มที่ดีในการกระตุ้นค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวของททท.กับวีซ่า ที่จะทำให้เศรษฐกิจประเทศและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี 2566 เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน#gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen