ททท.ยิ้มร่าอินเดียวีซ่าฟรี ดันรายได้เพิ่ม 7.1 พันล้านปี’67 ผนึกธุรกิจท่องเที่ยวรุกขายในอินเดีย 3 กิจกรรม



ททท.นำทีมรับนักท่องเที่ยว วีซ่าฟรีอินเดียวันแรก 10 พ.ย. คาดดันรายได้ปี’66 พุ่งสูงกว่าเป้าปกติ 7,100 ล้านบาท

  • อินเดียแห่ใช้เงินเที่ยวไทย 5,000 บาท/คน/วัน พักนาน 8 วัน
  • นำเอกชนเร่งส่งเสริมการขาย 3 กิจกรรมใหญ่ปี’67

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. กับ Mr. Nagesh Singh เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ร่วมกันต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียกลุ่มแรกที่ได้วีซ่าฟรีหรือยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) เดินทางมากับเที่ยวบิน 6E 1639 เริ่มวันแรก 10 พฤศจิกายน นี้ เนื่องจากอินเดียเป็นตลาดเป้าหมายหลักของไทยในปี 2566 เมื่อเปิดใช้ Visa Exemption จะเพิ่มโอกาสทำให้เกิดการตัดสินใจเลือกเดินทางมาไทยทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ และกลุ่มนักท่องเที่ยวมาไทยเป็นครั้งแรก (First Visit)

คาดจะช่วยกระตุ้นให้อินเดียเข้าไทยสิ้นสุดปี 2566 สูงถึง 1.6 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 65,600 ล้านบาท เกินเป้าหมายเดิมปี 2566 ททท.ตั้งไว้ 1.425 ล้านคน เพิ่มขึ้น 42 % จากปี 2565 สร้างรายได้กว่า 58,500 ล้านบาท เท่ากับวีซ่าฟรีอินเดียครั้งนี้จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียได้มากกว่าเป้าหมายปกติอีกกว่า 1.75 แสนคน ทำรายได้ขยับสูงจากปกติ 7,100 ล้านบาท

สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้อนุมัติให้ยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับนักท่องเที่ยวที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางเพิ่มอีก 2 สัญชาติคืออินเดียกับไต้หวัน เริ่มวันแรก 10 พฤศจิกายน 2566 – 10 พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศเป้าหมายหลักที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูงพร้อมจะนำเงินเข้ามาใช้จ่ายในไทยช่วงไฮซีซันปลายปี 2566 ถึงต้นปี 2567 โดยจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการของไทยฟื้นตัวอย่างคึกคักมีรายได้เพิ่มขึ้น

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า วันนี้ 10 พฤศจิกายน2566 มีพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียเป็นวันแรกกับกลุ่มที่ได้รับยกเว้นวีซ่า ททท. ซึ่งมากับเที่ยวบินนิวเดลี-กรุงเทพฯ จำนวน 204 คน มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 16.10 น. ส่วนใหญ่เดินทางมาพักผ่อนมี 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 มิลเลนเนียลส์หรือคนรุ่นใหม่ กลุ่มที่ 2 ครอบครัว พฤติกรรมการเดินทาง มาลำพังด้วยตัวเอง(FIT) สูงถึง 75% และมาเมืองไทยเป็นครั้งแรก (First Visit) ประมาณ 57% มาอยู่โดยมีวันพักเฉลี่ย 7 – 8 วัน/คน/ทริป ใช้จ่ายเงินเฉลี่ย 5,500 บาท/คน/วันรวมทั้งตลาดอินเดียยังมีนักท่องเที่ยวศักยภาพสูง เช่น กลุ่มแต่งงาน กลุ่มกอล์ฟ กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive)

ปี 2567 ททท. สำนักงานในอินเดียวางแผนจะกระตุ้นตลาดเติบโตอย่างยั่งยืน (High Value and Sustainability) มากขึ้น โดยได้นำเสนอการขายสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เดินหน้าจัดส่งเสริมตลาดการขาย 3 กิจกรรม ได้แก่

กิจกรรมที่ 1 จัด “Special Promotion Scheme” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และกลุ่มลูกค้าองค์กร (Corporate) กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive) กลุ่มที่เดินทางเข้ามาแต่งงานหรือเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษในประเทศไทย

กิจกรรมที่ 2 ทำ ทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย หรือ Joint/Sale Promotion ร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ ขายแพ็คเกจท่องเที่ยวไทย รุกเจาะเป้าหมาย กลุ่มท่องเที่ยวพักผ่อน กลุ่มผู้หญิง กลุ่มสูงวัย และกลุ่มกอล์ฟ

กิจกรรมที่ 3 นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายdkiท่องเที่ยว เพื่อพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้แทนบริษัทนำเที่ยวอินเดีย โดยมีกิจกรรมสาธิตและการเผยแพร่ข้อมูลท่องเที่ยวไทย เบื้องต้น 2 งาน ได้แก่ งานแรก OTM : Outbound Travel Market วันที่ 8 – 10 กุมภาพันธ์ 2567 ที่เมืองมุมไบ งานที่ 1 SATTE : South Asia’s Travel and Tourism Exchange วันที่ 22 – 24 กุมภาพันธ์ 2567 ที่กรุงนิวเดลี

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen