“ททท.” ขยายทัวร์เที่ยวไทยเฟสสอง 4 เดือนก.ค.- 31 ต.ค.65 เจียดงบเดิมพันล้าน หนุนใช้ที่เหลือให้หมด 1.31 แสนสิทธิ์



  • “ททท.” ได้ไฟเขียว ครม.ขยายโปรเจ็กต์ “ทัวร์เที่ยวไทย” เฟส 2 ต่ออีก 4 เดือน
  • เริ่ม “11 ก.ค.-31 ต.ค.65” ใช้งบก้อนเดิม 1,000 ล้านบาท
  • หนุนบริษัทนำเที่ยวขายแพกเกจ/โปรแกรมทัวร์ฟื้นรายได้ทั่วประเทศ
  • เผยยังเหลือสิทธิจองได้อีก 131,415 สิทธิ์ หลังเฟสแรกสร้างรายได้กว่า 728 ล้านบาท

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ล่าสุด ททท.ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ขยาย “ โครงการทัวร์เที่ยวไทย” เฟส 2 ระยะสุดท้ายปีนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 รวมทั้งขยายเวลาเบิกจ่ายเงินจนถึงเดือนธันวาคม 2565 เพื่อเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิซื้อแพกเกจหรือโปรแกรมทัวร์ในประเทศจากตัวแทนบริษัทนำเที่ยวได้จนถึง 31 ตุลาคม2565 เพื่อกระตุ้นรายได้ตลาดในประเทศเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการโรงแรม บริษัทนำเที่ยว  และแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นทั่วประเทศ

สำหรับโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” รัฐบาลสนับสนุนค่าแพคเกจท่องเที่ยวให้ประชาชน 40% คิดเป็นเงินไม่เกิน 5,000 บาท/สิทธิ์/คน ให้ได้คนละ 1 สิทธิ์เท่านั้น นักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายเงินเอง 60 % ของราคาแพกเกจหรือโปรแกรมทัวร์ที่เลือกซื้อจากบริษัทนำเที่ยว ล่าสุด ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ยังคงมีสิทธิ์ให้คนไทยได้ใช้เหลืออยู่ 131,415 สิทธิ์ โดยใช้วงเงินงบประมาณเดิมที่ได้รับอนุมัติไว้ตั้งแต่แรกรวม 1,000 ล้านบาท

ดังนั้น ททท.จึงได้ขยายเวลาให้บริษัทนำเที่ยวได้ขายต่อไปอีก 4 เดือน ตั้งแต่กรกฎาคม- 31 ตุลาคม 2565    

สถิตินักท่องเที่ยวในโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” เฟสที่ 1 ได้จัดทริปออกเดินทางท่องเที่ยวแล้ว 63,506 คน มีผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเสนอขายรายการทั้งสิ้น 375 ราย สร้างรายได้รวมมูลค่า 728,166,429.40 บาท แบ่งเป็น “เงินที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเอง”  445,314,012.40 บาท และ “เงินจากรัฐบาลสนับสนุน”282,852,416.80 บาท  (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565)  

ผู้ว่ายุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.เห็นความสำเร็จของโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” เฟสแรก จึงเสนอรัฐบาลขยายเวลาต่อเฟสที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจตัวแทนบริษัทนำเที่ยวที่ยังสนใจเข้าร่วมโครงการช่วงกรกฎาคม-ตุลาคม นี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยต้องมีคุณสมบัติหลักประกอบด้วย 1.เป็นผู้ประกอบการแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตหรือดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย 2.ยังเปิดให้บริการตามปกติต้องจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 และมีการต่ออายุอย่างต่อเนื่องจนจบโครงการ โดยไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนหรือถูกดำเนินคดีอาญาในโครงการกำลังใจ เราเที่ยวด้วยกันหรือโครงการอื่น ๆ ของรัฐ

3.จะต้องเปิดใช้บริการแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ระบุเป็นประเภทผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเท่านั้น 4.ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.ทัวร์เที่ยวไทย. โดยมีเงื่อนไขการขายที่จะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดหลัก

เรื่องแรก 1 บริษัท สามารถรับนักท่องเที่ยวจองซื้อได้ไม่เกิน1,000 สิทธิ และผลิตรายการนำเที่ยวได้ 30 รายการเท่านั้น

เรื่องที่สอง กรณีผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายเดิมที่ลงทะเบียนในเว็บไซต์แล้ว ส่งรายการนำเที่ยวใหม่วันที่ 27 มิถุนายน  – 15 กันยายน 2565 เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจองรายการนำเที่ยวเดิมวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 / เริ่มนำนักท่องเที่ยวออกทริปแรกวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ให้แล้วเสร็จสิ้นภายใน31 ตุลาคม 2565 จะต้องส่งรายการนำเที่ยวครั้งสุดท้าย 15 กันยายน 2565 

เรื่องที่สาม กรณีเป็นผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายใหม่ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนในเว็บไซต์ ตอนนี้สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมทั้งต้องส่งรายการนำเที่ยว เริ่มตั้งแต่ 3 กรกฎาคม – 15 กันยายน 2565 จากนั้นให้เริ่มจัดทริปแรกนำนักท่องเที่ยวออกเดินทางได้ตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2565 ให้แล้วเสร็จสิ้นภายใน 31 ตุลาคม 2565  รวมทั้งจะต้องส่งรายการนำเที่ยวครั้งสุดท้ายวันที่ 15 กันยายน 2565

ขณะที่ “ประชาชนทั่วไป” ที่ต้องการจะซื้อแพกเกจทัวร์จากบริษัทนำเที่ยวในโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขหลักด้วยเช่นกันคือ 1.เป็นผู้มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 2.ต้องแสดงตนรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน“เป๋าตัง”

3.ต้องเลือกใช้เพียง 1 โครงการ นั่นคือ ไม่สามารถใช้แพคเกจท่องเที่ยวโครงการทัวร์เที่ยวไทยในช่วงเดียวกับการเข้าพักโรงแรม/ที่พักของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้

4.เลือกจองรายการนำเที่ยวที่สนใจผ่านเว็บไซต์ www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย ได้ตั้งแต่ 11 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2565 โดยจะต้องซื้อแพกเกจหรือโปรแกรมทัวร์ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง 7 วัน พร้อมกับชำระเงินครบ 60% ของราคาแพกเกนั้นผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”ภายในเที่ยงคืนของวันที่ทำการจอง แต่สามารถยกเลิกการจองรายการนำเที่ยว ก่อนชำระเงินเท่านั้น กรณีชำระเงินแล้วมีเหตุสุดวิสัยเดินทางจริงไม่ได้ หากต้องการเงิน 60 % คืน ให้ปฏิบัติตาม พรบ. ธุรกิจนำเที่ยว ปี 2551 โดยไม่สามารถโอนสิทธิ์การเดินทางให้บุคคลอื่นได้

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen