

- ดูไบเปิดแผนจัด “ATM 2023” มหกรรมท่องเที่ยวปี’66 ปลุกทั่วโลกผนึก “ตะวันออกกลาง” เคลื่อนทัพท่องเที่ยวยั่งยืน 5 เทรนด์
- “กรีนแอร์ไลน์ส-อีโคโฮเต็ลแอนด์รีสอร์ต-แหล่งเที่ยวกิจกรรมยั่งยืน-ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นรักษ์โลก-กลยุทธ์บนลงล่าง”
- สายการบินใหญ่เอทิฮัด กาตาร์แอร์เวย์ส โรงแรม ร้านอาหาร นำร่องทำแล้ว
แดเนียล เคอร์ติส ผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการ ME, Arabian Travel Market สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมพร้อมจัดมหกรรมงานท่องเที่ยวนานาชาติ “ATM -Arabian Travel Mart 2023 ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2566 ที่ศุนย์การประชุมดูไบ เวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ (DWTC) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง (ME -Middle East) ในการเดินหน้าอย่างจริงจังกับการจัดการคาร์บอนเป็นศูนย์แล้วยังจะแสดงถึงในตะวันออกกลางตื่นตัวที่จะเชิญชวนทั่วโลกร่วมสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 5 เทรนด์
ซึ่งทางทีมจัดงาน ATM 2566 ได้ให้ความสำคัญนอกเหนือจากจะผลักดันการทำงานสู่เป้าหมายทำให้เกิดคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวตะวันออกกลางแล้ว ยังพร้อมแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนปฏิบัติที่กำลังดำเนินต่อไปเพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนในระดับภูมิภาคและระดับโลก ขณะนี้ในตะวันออกกลางทั้งการท่องเที่ยวและการบริการกำลังขยายผลอย่างรวดเร็วมองไปข้างหน้าเร่งพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวอาหรับโดยใช้งาน ATM ปี 2566 สร้างความรู้ความเข้าใจและแนวทางการทำงานสอดคล้องกับธีม ‘ Working Towards Net Zero ‘ โดยจะนำผู้เชี่ยวชาญภาครัฐและเอกชนจากทั่วโลกมารวมตัวกันที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อสำรวจอนาคตร่วมกันลดคาร์บอนในการเดินทางทั่วโลก สถิติการจัดงาน ATM ปี 2565 มีผู้เข้าร่วมจาก 151 ประเทศ เป็นกลุ่มตัวแทนผู้ซื้อและผู้ขายท่องเที่ยวกว่า 1,600 ราย มีผู้เข้าชมงาน 24,000-31,000 คน

ปัจจุบันตะวันออกกลางในฐานะผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมสีเขียว จะทำให้งาน ATM 2566 เป็นเวทีที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทาง การท่องเที่ยวและการบริการสามารถแสดงความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน พร้อมแบ่งปันความรู้และตัวอย่างแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากทุกภาคส่วน บนสถานการณ์ความท้าทายและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนความรับผิดชอบ
ตามข้อมูลของ Sustainable Travel International มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวปล่อยคาร์บอนสู่โลกคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8 % ดังนั้นในการจัดมหกรรมงานท่องเที่ยวนานาชาติ ATM 2566 ผู้จัดงานได้เน้นย้ำถึงความยั่งยืน 5 เทรนด์ ซึ่งทางตะวันออกกลางได้ให้ความสำคัญร่วมกันผลักดันสู่เส้นทางการลดคาร์บอนเป็นศูนย์อย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประกอบด้วย
เทรนด์ที่ 1 สายการบินสีเขียว/ Greener airlines ขณะนี้บริษัทการบินทั่วโลกกำลังลงทุนนำนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อช่วยลดผลกระทบของการเดินทางทางอากาศต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสายการบินในตะวันออกกลางมีบทบาทนำเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วย เช่น สายการบินเอทิฮัด เพิ่งได้รับรางวัลนวัตกรรมด้านความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมแห่งปีจากCenter of Aviation (CAPA) สร้างความก้าวหน้าบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยเป็นสายการบินต้นแบบที่มีฐานหลักอยู่ในเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งเป้าภายในปี 2565 มุ่งจัดทำแผนจัดการขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งลดลง 80% และภายในปี2568 ตั้งเป้านำฝูงบินผู้โดยสารทั้งหมดลดปล่อยมลพิษลดลง ให้ได้อีกไม่ต่ำกว่า 20%

ขณะที่ “กาตาร์ แอร์เวย์ส” ได้ริเริ่มทำโครงคล้ายคลึงกันกับเอทิฮัดโดยมีความก้าวหน้าอย่างมากในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมทั้งลดของเสียและร่วมอนุรักษ์น้ำ อีกทั้งยังได้ปรับปรุงแอโรไดนามิกในฝูงบินทั้งหมดเร่งขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านระบบเครื่องยนต์เครื่องบินทำให้เสียงเงียบและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
เทรนด์ที่ 2 โรงแรมและรีสอร์ทเชิงนิเวศน์/ Eco hotels and resorts ผู้ประกอบการและนักลงทุนมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อสภาพภูมิอากาศและพื้นดิน ช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ทาง Department of Culture and Tourism – Abu Dhabi (DCT Abu Dhabi) ประกาศว่าได้ร่วมมือกับ Hotelbeds ช่วยกันเพิ่มการเดินทางขาเข้าประเทศทำให้เกิดความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วเอมิเรต
เนื่องจากตะวันออกกลางมีโรงแรมและรีสอร์ทหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ขณะนี้หลายแห่งเลิกใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง พร้อมบูรณาการแผนประหยัดพลังงานแสงสว่างกับระบบสาธารณูปโภคนำวัสดุหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เทรนด์ที่ 3 แหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่ยั่งยืน/ Sustainable attractions and activities ตะวันออกกลางมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายได้รับการออกแบบลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างประโยชน์ทางบวกต่อระบบนิเวศและชุมชนในท้องถิ่นด้วย เช่น แซนด์ เชอร์ปา ในดูไบ นำเสนอการผจญภัยเชิงอนุรักษ์ ตั้งแต่การตั้งแคมป์อย่างยั่งยืนไปจนถึงการท่องเที่ยวซาฟารีสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์
ส่วนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Terra-The Sustainability Pavilion พัฒนาขึ้นครั้งแรกเพื่อรองรับการจัด Expo 2020 Dubai ปัจจุบันตั้งอยู่ใน Expo City Dubai ยังคงสร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำรากฐานป่าและมหาสมุทร สร้างประสบการณ์ที่มีส่วนร่วม ทำให้ผู้เข้าชมทุกวัยเดินทางด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ดี กลายเป็นหนึ่งในการร่วมกันสร้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และวิธีที่สามารถช่วยรักษาโลกคนรุ่นต่อไปในอนาคตได้ด้วย
เทรนด์ที่ 4 ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นรักษ์โลก/ Locally sourced produce ผู้ประกอบธุรกิจบริการในตะวันออกกลางกำลังรุกสร้างความยั่งยืนอย่างมีนัยสำคัญผ่านการนำเสนออาหารและเครื่องดื่มยั่งยืน เช่น ร้านอาหาร Lowe ในดูไบ ให้ความสำคัญกับการส่งมอบอาหารรสอร่อยที่ไม่สร้างผลเสียต่อโลกมาตั้งแต่เปิดร้านเมื่อปี 2562 ส่วน Baronเมืองเบรุตเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสร้างสรรค์สูตรอาหารทั้งหมด และร้าน Sanderson ของอาบูดาบีก็ใช้ข้าวโพดแป้งในการผลิต ภาชนะอาหาร และช้อนส้อมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
เทรนด์ที่ 5 กลยุทธ์จากบนลงล่าง/ Top-down strategies รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอเมริเรตส์ได้นำชุดกลยุทธ์สร้างความยั่งยืนจากการรวบรวมเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นแรงกระตุ้นและอำนวยความสะดวกทำให้เกิดการตื่นตัวมีผลเป็นวงกว้างทั่วตะวันออกกลาง ตัวอย่าง 2 องค์กร Dubai College of Tourism (DCT) และDubai Sustainable Tourism (DST) เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ( Department of Economy and Tourism :DET) ดูไบ เปิดตัวหลักสูตรใหม่เริ่มธันวาคม 2565 เป็นต้นไป เพื่อยกระดับนำเสนอการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเตรียมจัดงาน COP28 ในเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยมีบริการบนแพลตฟอร์มเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ของ ดูไบ เวย์ โปรแกรมนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมขับเคลื่อนโครงการประหยัดน้ำและพลังงานอย่างมีธรรมาภิบาลสีเขียวและแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน

ขณะเดียวกันประเทศสมาชิกในตะวันออกลาง ได้เดินหน้ากลยุทธ์การท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ได้แก่
“โอมาน” ตั้งเป้าภายในอีก 2 ทศวรรษหน้า ภายในปี 2583 (ค.ศ.2040) ตั้งเป้าหมายปรับปรุงสถานที่หรูหราของสุลต่านให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
“ซาอุดีอาระเบีย” เร่งยกระดับประเทศเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอยางยั่งยืน นำเสนอโครงการผสมผสานประสบการณ์ของผู้เข้าพักระดับโลกและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน รวมทั้งตามแผนปี 2573 (ค.ศ.2030) ได้กำหนดวิสัยทัศน์สู่ประเทศท่องเที่ยวยั่งยืน ขณะนี้วางเป้าหมายเพิ่มนักท่องเที่ยวนานาชาติเข้าประเทศให้ได้ปีละ 10 ล้านคน
แต่ละปีภายในงาน ATM ดูไบ จะนำเสนอแง่มุมใหม่ ๆ มีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก้าวไปข้างหน้า ปี 2566 จะทำจะสำรวจเทรนด์การเดินทางอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานนำไปใช้วางกลยุทธ์สร้างการเติบโตในอนาคตได้ และจะเป็นครั้งแรกที่จะมอบรางวัลความยั่งยืนประจำปี 2566 ให้ผู้จัดหรือองค์กรแสดงสินค้าที่มีผลงานโดดเด่นเรื่องลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดหรือชดเชยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ตามคอนเซ็ปต์ของงาน
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen