ดุสิตโฮเทลส์ นำแบรนด์ไทยเปิดใหม่ในเนปาล 2 โรงแรม ขยายพอร์ตธุรกิจ-เชื่อมวัฒนธรรมเมืองท่องเที่ยวโลก



  • ดุสิตฯ นำแบรนด์ไทยเปิดตัวใหม่ในเนปาล 2 โรงแรม “ดุสิตปริ๊นเซสกาฎมัณฑุ-ดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท ดูลิเคล”
  • ขยายพอร์ตธุรกิจ เพิ่มจุดขายที่พักธรรมชาติและชุมชนจุดหมายปลายทางเมืองท่องเที่ยวโลก
  • มอบสิทธิ “แพกเกจห้องพักราคาพิเศษ” ช่วงฉลองเปิดโรงแรม ส.ค.-ก.ย.66

นายกิลเลส ครีทาลาซ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่า ตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวโรงแรมใหม่ในเครือดุสิตธานีถึง 2 แห่ง ในประเทศเนปาล คือดุสิตปริ๊นเซส กาฐมาณฑุ เริ่ม 17 กรกฎาคม2566 และดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท ดูลิเคล ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2566 เป็นโรงแรมที่ผู้คนรอคอยซึ่งเกิดจากการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างการต้อนรับแบบไทย ๆ และความแตกต่างทางวัฒนธรรมท้องถิ่นของเนปาล พร้อมจะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้ผู้เข้าพักทุกคน และชุมชนรอบพื้นที่มีโอกาสให้โรงแรมได้ใช้บริการด้วย จึงขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อพันธมิตรทุกกลุ่มกับชุมชนที่เป็นมิตรในเนปาลซึ่งให้การสนับสนุนอย่างล้นหลาม เพื่อจะร่วมกันกำหนดอนาคตอันรุ่งเรืองเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำและมีความหมายผลักดันดินแดนแห่งนี้จุดหมายปลายทางที่ไม่ธรรมดาตลอดการพักผ่อนในแต่ละทริปของแต่ละคน

สำหรับแผนการลงทุนเปิดตัวโรงแรมดุสิตในเนปาล เป็นการขยายพอร์ตโฟลิโอทั่วโลกของดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล54 แห่ง ดำเนินงานภายใต้โรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต และวิลล่าหรูกว่า 240 หลัง ภายใต้ Elite Havens ใน 19 ประเทศ

โรงแรมแรก “ดุสิต ปริ๊นเซส กาฐมาณฑุ” ตั้งอยู่ในใจกลางย่าน Lazimpat ในเมืองหลวงที่มีชีวิตชีวารายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง พิพิธภัณฑ์พระราชวัง Narayanhiti และจากสนามบินนานาชาติ Tribhuvan International Airport เพียง 18 นาที สามารถขับรถยนต์ไปชมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ด้วย เช่น จัตุรัสดะระบาร์ เมืองกาฐมาณฑุ และสถูปสวยัมภูนาถ หนึ่งในกลุ่มวัดเก่าแก่และเป็นที่นับถือมากที่สุดในเนปาล

โดยได้ออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนถึงวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ที่พักที่สวยงามมอบโอเอซิสแห่งการพักผ่อนท่ามกลางความคึกคักของเมือง มีห้องพักบริการ 107 ห้อง ขนาด 28-62 ตร.ม. และห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทมีพื้นที่กว่า 159 ตร.ม. มีร้านอาหารไทยอย่าง ดุสิต กูร์เมต์ เอาท์เล็ท ขนมอบอบสดใหม่ แซนด์วิชชั้นเยี่ยม และอาหารต่าง ๆ และ Kibu Sky Lounge บนชั้นดาดฟ้าให้ชมวิวเมืองแบบพาโนรามาได้ที่ บลูบาร์ บนชั้นดาดฟ้า พร้อมมีสระว่ายน้ำอินฟินิตี้สูงที่สุดของเมือง

เร็ว ๆ นี้เตรียมเปิดตัว เครสต์ สปา นำเสนอการนวดบำบัดแบบไทยและทรีตเมนต์ความงามที่หลากหลาย โดยมีห้องอบไอน้ำ ซาวน่า กับ Crest Club อุปกรณ์ครบครันพร้อมห้องออกกำลังกายให้ผู้เข้าพักที่ต้องการพักผ่อน เติมความสดชื่น และเติมพลังด้วยความสะดวกสบายสูงสุด

แล้วยังมีห้องจัดงานประชุมเชิงธุรกิจ จัดแต่งงาน และกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ มีพื้นที่ใช้งานได้หลากหลาย อย่างห้อง“Vista” บนชั้นดาดฟ้าสวยงามซึ่งมีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานและวิวเมืองแบบพาโนรามารองรับแขกได้สูงสุด 35 คน หรือ “ห้องปริ๊นเซสบอลรูม” หรูหราพร้อมรองรับการจัดประชุมขนาดใหญ่มีผู้เข้าร่วมสูงสุด 250 คน ห้องลุมพินี 1 และลุมพินี 2 จัดประชุมกลุ่มย่อยขนาดไม่เกิน 35-40 คน หรือจัดงานสังสรรค์ขนาดเล็กแบบไม่เป็นทางการ และ The Gallery มีพื้นที่เปิดโล่งเหนือล็อบบี้ พร้อมทีมงานมืออาชีพทุ่มเทบริการอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างความประทับใจกับลูกค้าทุกกลุ่มเป็นอย่างดี

โรงแรมที่ 2 “ดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท ดูลิเคล” (Dhulikhel ) อยู่บริเวณเชิงเขาหิมาลัยระหว่างเทือกเขามหาภารตะและสันเขาที่ราบสูงอัลไพน์ ใช้เวลาขับรถเพียง 1 ชั่วโมงจากสนามบินนานาชาติ Tribhuvan และ 10 นาทีจากNamo Buddha ซึ่งเป็นสถานที่แสวงบุญทางพุทธศาสนาสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเนปาล

โดยมีห้องพักและห้องสวีทกว้างขวางและตกแต่งอย่างหรูหรา 54 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 47 -57 ตร.ม. และวิลล่าสุดพิเศษ18 หลัง มีพื้นที่ตั้งแต่ 124 -247 ตร.ม./หลัง เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเหมาะกับกลุ่มนักเดินทางเชิงธุรกิจและการพักผ่อนกลางธรรมชาติ

ไฮไลต์ของดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท ดูลิเคล คือ “เทวารัณย์เวลเนสสปา” สุดพิเศษด้วยสปาบำบัดแบบไทย พร้อมศูนย์ออกกำลังกาย สระว่ายน้ำอินฟินิตี้กลางแจ้งกับจากุซซี่ และพื้นที่เฉพาะใช้จัดกิจกรรมกลางแจ้งอย่าง เล่น โยคะและทำสมาธิ

รวมทั้งสามารถจัดโปรแกรมพักผ่อนต่อเนื่องได้หลายวันและโปรแกรมสุขภาพ เช่น ขี่จักรยานและเดินป่าไปยังเส้นทางตามหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่นอย่าง Phulbari และ Panchkhal นักท่องเที่ยวจะสามารถดื่มด่ำกับมรดกทางวัฒนธรรมและประเพณีอันยาวนานของพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งล้อมรอบด้วยป่า นาข้าวที่จัดการโดยชุมชน รวมทั้งยังเป็นรีสอร์ทเขตอนุรักษ์พันธุ์นกหายากและหายากกว่า 80 สายพันธุ์ เรื่อยไปจนถึงการมีส่วนร่วมสัมผัสธรรมชาติ Dhulikhel Zipline ตั้งอยู่ใกล้ ๆ รวมทั้งมีกิจกรรมผจญภัยอื่น ๆ เช่น ล่องแก่ง และบันจี้จัมพ์ อยู่ห่างออกไป2 ชั่วโมง และสามารถขับรถเพียง 1 ชั่วโมงไปยัง Bhaktapur Durbar Square แหล่งมรดกโลกของยูเนสโก้

ซึ่งทางโรงแรมได้เน้นบริการอาหารโดยใช้แนวคิดจาก “ฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร -Farm to table” จัดหาวตถุดิบที่ดีที่สุดในท้องถิ่นมาปรุงรสชาติอาหารไทย เนปาล อินเดีย และเอเชีย ได้ที่ห้องอาหาร Thaan อิ่มอร่อยกับเมนูจานเด็ดตามฤดูกาล รับประทานจับคู่กับชิชาและค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ที่บาร์ริมสระน้ำ Bela สามารถเพิ่มประสบการณ์รับประทานอาหารสุดพิเศษกับเมนูพิเศษเฉพาะโดยมีพ่อครัวเพิ่มความสะดวกสบายเป็นส่วนตัว หรือจะนั่งรับประทนตรงระเบียงห้องพักแล้วเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันกว้างไกลของหุบเขาและทิวทัศน์หิมาลัยแบบ 180 องศา

ดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท ดูลิเคล มีบริการไฮไลต์ “ห้องแกรนด์บอลรูม” หรูหรารองรับแขกได้มากถึง 350 คนเหมาะกับการเลือกเป็นสถานที่จัดแต่งงานและงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ โดยมีห้องประชุมขนาดเล็กสำหรับการประชุมทางธุรกิจ เวิร์กช็อป การฝึกอบรม และงานระดับมืออาชีพขนาดเล็กอื่น ๆ ทีมงานผู้จัดงานที่ทุ่มเทพร้อมที่จะจัดการและดูแล และให้บริการส่วนบุคคลเป็นอย่างดี

ช่วงเฉลิมฉลองการเปิดตัว “ดุสิต ปริ๊นเซส กาฐมาณฑุ” มอบสิทธิพิเศษด้วย “ห้องพักแบบสุพีเรียร์” ราคาเริ่มต้นเพียงNPR 16,500 หรือ 125 เหรียญสหรัฐ/ห้อง/คืน พร้อมอาหารเช้าฟรี 2 คน กับและชุดอาหารค่ำร้านอาหารไทยของโรงแรม ใช้ได้ถึงวันที่ 17 กันยายน 2566

“ดุสิตธานี หิมาลายัน รีสอร์ท ดูลิเคล” จัดแพ็คเกจห้องพัก New Himalayan Hideaway สุดพิเศษ พร้อมอาหารเช้าทุกวันที่ Thaan น้ำชายามบ่ายฟรีที่ Bela Bar บริการนวดคอและไหล่ฟรี 30 นาทีที่ Devarana Wellness สำหรับสองท่าน ส่วนลด 15% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม และสปาทรีตเมนต์ การเยี่ยมชม Namo Buddha พร้อมไกด์ฟรีและสิทธิประโยชน์พิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ใช้ได้ถึง 31 สิงหาคม 2566

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen