ดีอีเอส โชว์ความพร้อมท่าเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ตท่าเรืออัจฉริยะ รับทัพนักท่องเที่ยว



  • เตรียมการรองรับเปิดประเทศ
  • ลงทะเบียนนักท่องเที่ยวผ่านแอป “ไทยแลนด์พลัส”
  • เพื่อสะดวกในการติดตามกรณีโควิด-19 แพร่ระบาด

นาย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมท่าเทียบเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ต ว่า โครงการท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) ต้นแบบท่าเทียบเรืออ่าวปอ ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ได้พัฒนาจัดการท่าเรือ เพื่อให้จังหวัดสามารถทราบข้อมูลและจำนวนผู้โดยสารในเรือแต่ละลำ เก็บภาพวีดีโอของผู้โดยสาร พร้อมการคัดกรองอุณหภูมิผู้โดยสารก่อนลงเรือ เพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยการคัดกรองและติดตามโรคระบาดโควิด-19 ทั้งนี้ ระบบการจัดการท่าเรืออัจฉริยะนี้ ประกอบด้วย 1. ระบบลงทะเบียนผู้โดยสารทางทะเลกลางผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยให้ผู้ประกอบการทัวร์ หรือเจ้าของเรือ ลงทะเบียนรายชื่อผู้โดยสาร ลูกเรือ กัปตัน ชื่อเรือ พร้อมเส้นทางการเดินทางของเรือ ก่อนเรือออกในแต่ละวัน พร้อมระบบรายงานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง

2. ระบบจัดการผู้โดยสารท่าเรืออัจฉริยะ คือ ประตูอัตโนมัติ จุดขึ้นลงเรือ พร้อม CCTV จับใบหน้าและวัดอุณหภูมิ และตู้พร้อมอุปกรณ์ (Kiosk) ลงทะเบียนผู้โดยสารหน้าท่าเรือ พร้อมกล้องจับใบหน้า เครื่องอ่านบัตรประชาชน และพาสปอร์ต 3. ระบบ Wristbands ติดตามตัวบุคคลและร้องขอความช่วยเหลือเมื่อประสบภัย และ 4. เรือท่องเที่ยวที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการเพื่อเป็นต้นแบบท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) เป็นจุด One Stop Service บูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อการพัฒนาการบริหารงานท่าเทียบเรือในอนาคต

“แพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบในลักษณะ One Stop Service เช่น การเชื่อมต่อข้อมูลด้านประกันภัยแบบอัตโนมัติ เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถนำสายรัดข้อมือไปยืนยันการเคลมประกันกับโรงพยาบาลได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องโทรติดต่อประกันภัย หรือนำเอกสารยืนยันตัวต่าง ๆ เข้าไปยื่นก่อนการรักษา สามารถเข้ารับการรักษาได้เลย เป็นลดขั้นตอน ลดระยะเวลาไปอย่างมาก หรือจะเป็นการส่งรายชื่อนักท่องเที่ยวทุกคน ให้เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าก่อนการออกเดินทาง เพื่อเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งแพลตฟอร์มรองรับการอัปโหลดข้อมูลจากบริษัทนำเที่ยว จากนั้นแพลตฟอร์มจะทำการส่งข้อมูลเหล่านั้น ให้กับเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า และสามารถประมวลผล และสรุปผลได้โดยทันที” 

นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ดีป้า ประสานงานกับกรมเจ้าท่าเพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการ และการสนับสนุนการดำเนินงานด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการขยายผลในทุก ๆ ท่าเทียบเรือในจังหวัดภูเก็ต ปิดช่องโหว่ที่พบข้างต้น เพื่อสร้างความมั่นใจ เรื่องความปลอดภัย และความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว  

เร่ิมเปิดลงทะเบียนนักท่องเที่ยวผ่าน แอป “ไทยแลนด์พลัส”​  รองรับมาตรการเปิดประเทศ

สำหรับความคืบหน้ามาตรการเปิดประเทศ โดยจะใช้แอปพลิเคชัน “ไทยแลนด์พลัส” และสายรัดข้อมือไว้ติดตามตัวนักท่องเที่ยว  เพื่อใช้ตรวจจับอุณหภูมิร่างกาย วัดคลื่นหัวใจ มีระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน และกรณีหากมีการถอดสายรัดข้อมือออกเจ้าหน้าที่สามารถทราบได้ทันที ซึ่งจะมีผลทางกฎหมายกับตัวนักท่องเที่ยวผู้ที่ถอดสายรัดข้อมือออกด้วย  

ทั้งนี้เบื้องต้นช่วงแรกได้เตรียมสายรัดข้อมือไว้จำนวน 10,000 ชิ้น ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวและพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม สายรัดข้อมือที่ทางท่าเทียบเรืออัจฉริยะใช้อยู่ ก็จะต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลกันกับที่รัฐบาลจะนำมาใช้กับนักท่องเที่ยวในโอกาสเปิดประเทศครั้งนี้ด้วย เพื่อให้ข้อมูลเกิดความแม่นยำตรงกันทั้งหมด และให้เกิดประสิทธิภาพในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด19 หลังรัฐบาลประกาศมาตรารเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับท่องเที่ยว ที่ต้องการท่องเที่ยวในประเทศไทย