

- แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ดันดัชนีแนสแด็กและเอสแอนด์พีทำนิวไฮ
- นักลงทุนซื้อหุ้นรับแนวโน้มเฟดกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
- การใช้จ่ายส่วนบุคคลชาวอเมริกันเพิ่มขึ้น 1.9% สูงกว่าที่คาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 28 ส.ค.ที่ระดับ 28,653.87 จุด เพิ่มขึ้น 161.60 จุด หรือ +0.57%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,508.01 จุด เพิ่มขึ้น 23.46 จุด หรือ +0.67% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,695.63 จุด เพิ่มขึ้น 70.30 จุด หรือ +0.60%
ตลาดมีโมเมนตัมในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งใหม่ ซึ่งหมายความว่า จะสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นเวลานาน
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะลงนามในข้อตกลงเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 วงเงิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่โครงการเงินช่วยเหลือการว่างงานฉุกเฉินหมดอายุมาเป็นเวลา 4 สัปดาห์
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 2.6%, เอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 3.3% และดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 3.4% และดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้นราว 8% แล้วในเดือนส.ค.ขณะที่แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีส่งผลให้ดัชนีแนสแด็กและเอสแอนด์พีทำนิวไฮต่อเนื่อง โดยเดือนส.ค.ปีนี้ เป็นตลาดหุ้นที่ดีที่สุดในรอบ 34 ปี
ขณะเดียวกันการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเรายงานว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.5% หลังจากพุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานดีดตัวขึ้น 1.3% ในเดือนก.ค.
หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ และหุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 3.1% และ 3.3% ตามลำดับ เนื่องจากทั้งสองบริษัทพยายามที่จะปรับลดต้นทุนการดำเนินงาน ซึ่งรวมถึงการเลิกจ้างพนักงานและการให้พนักงานลาออกโดยสมัครใจ
บริษัทเวิร์คเดย์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟท์แวร์ธุรกิจ พุ่งขึ้น 12.6% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์สมาชิกต่อปี และหุ้นเดล เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 6.1% หลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสสูงเกินคาด
หุ้นวอลมาร์ทและหุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวขึ้น 2.7% และ 1.0% ตามลำดับ หลังวอลมาร์ทประกาศจับมือกับไมโครซอฟท์เพื่อเสนอซื้อกิจการของ TikTok