

.การเจรจาประธานาธิบดีไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายแมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ไม่คืบหน้า
.นักลงทุนชะลอการซื้อขาย รอทิศทางเศรษฐกิจ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเฟดที่อาจยังไม่ยุติวงจรขาขึ้น
. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.5 ในเดือนพ.ค. สูงสุดในรอบ 13 เดือน
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,281.68 จุด ลดลง
4.90 จุด หรือ -0.01% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,695.29 จุด ลดลง 25.49 จุดหรือ -0.20% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,180.62 จุด ลดลง 12.01 จุด หรือ -0.29%
ดัชนีดาวโจนส์แกว่งตัวแคบในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ โดยการหารือล่าสุดวานนี้ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.753% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.998%
นอกจากนั้น นักลงทุนยังคงจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ โดยนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในปีนี้ ซึ่งถ้อยแถลงของนายบูลลาร์ดเป็นการส่งสัญญาณว่า หากเฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ไม่ได้เป็นการบ่งชี้ว่าเฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่นายนีล แคชแครี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า หากเฟดพักการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ไม่ได้หมายความว่าเฟดได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่หมายความว่าเฟดกำลังรอข้อมูลมากขึ้น โดยหากเงินเฟ้อยังไม่ชะลอตัวลง เขาจะสนับสนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
“เราจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนก.ค.หรือไม่ ก็เป็นไปได้ สิ่งสำคัญคือ เรายังไม่ตัดทางเลือกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” นายแคชแครีกล่าว
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.5 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน จากระดับ 53.4 ในเดือนเม.ย. และได้ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 50.2 ในเดือนเม.ย.ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน จากระดับ 53.6 ในเดือนเม.ย.
ตลาดจับตารายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมทั้งตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย.