

.ตลาดจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนก.ค.
.จับตาทิศทางการลดการใช้นโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ-ทิศทางดอกเบี้ย
.นักลงทุนซื้อขายหุ้นทำกำไร ลดความเสี่ยง รอปัจจัยหนุนเศรษฐกิจฟื้น
เมื่อเวลา 22.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,283.48 จุด ลดลง 59.80 จุด หรือ -0.17% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,648.92 จุด ลดลง 7.27 จุด หรือ -0.05% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,441.99 จุด ลดลง 6.09 จุด หรือ -0.14%
บรรรยากาศตลาดหุ้นสหรัฐการซื้อขายเป็นไปด้วยความระมัดระวัง โดยรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จากการแพร่ระบาดของโควิด สายพันธุ์เดลตา และอัตราดอกเบี้ย โดยดัชนียังคงลดลงต่อเนื่องจากวานนี้
นักลงทุนยังคงซื้อขายหุ้น ตามผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ที่ออกมา ทั้งนี้ บริษัทโลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ และเป็นคู่แข่งของบริษัทโฮม ดีโปท์ อิงค์ พุ่งขึ้นในวันนี้ หลังเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง แม้บริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาด
ตลาดจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่ารายงานของเฟดในวันนี้ และการประชุมประจำปีของเฟดในปลายเดือนนี้ จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE
นักลงทุนมีความวิตกว่า เฟดอาจทำการประกาศในเดือนหน้าเกี่ยวกับไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะเริ่มทำการปรับลด QE ในเดือนต.ค.และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดออกมาให้ความเห็นในลักษณะเดียวกันในช่วงก่อนหน้า
ทั้งนี้ ปัจจุบัน เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE อย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์